
1. เธอจะไม่กลัวความลำบาก ไม่กังวลเรื่องความสวยตลอดเวลา
ผู้หญิงฉลาดจะไม่ยอมปล่อยตัวเองให้อยู่ในค่านิยมแบบใดซ้ำซาก ต า ยตัว ถึงแม้
เธอจะมีลุคนึงเป็นลุคประจำตัว แต่ก็จะไม่กังวลเลยถ้าจะต้องปรับตัวให้เข้ากับ
หลากหลายสถานการณ์ บางครั้งก็ขี้เกียจแต่งหน้า บางครั้งก็ไม่กลัวที่จะลุย ๆ แมน ๆ
เธอมักไม่ขังตัวเองไว้ในกรอบใดกรอบหนึ่งเสมอ
2. พูดเพราะ ไม่สำคัญเท่ารู้กาลเทศะ
เป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ในสมัยนี้ถ้าผู้หญิงจะพูดหย าบคายกันบ้าง แต่ก็ใช่ว่า
จะเป็นเช่นนี้กับทุกคน หรือเปิดเผยตัวตนมากเกินไป ผู้หญิงฉลาดมักจะรู้ดีว่า
อยู่กับใครควรจะพูดแบบไหน ถึงเธอจะหย าบคายเธอก็เลือกสถานการณ์ด้วย
ความรู้แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี และเมื่อใดก็ตามที่เธอพูดจาเป็นปกติ เธอมัก
ให้ความสำคัญกับคนที่กำลังพูดอยู่เสมอ
3. ถึงเธอจะพูดไม่เก่ง แต่เธอมีวิธีแสดงออกที่เอาใจคนอื่นได้
เธอมักจะให้เกียรติคนอื่นที่ไม่คุ้นเคยด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดีเสียก่อน เพื่อสังเกตว่า
เขาคนนั้นชอบอะไร มีทัศนคติแบบไหนเพื่อจะหาช่องทางที่เอาใจใส่ได้ถูกวิธี
ถึงเธอจะเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่วิธีการแสดงออกจะรับรองได้เลยว่าคนที่อยู่ด้วย
ย่อมรู้สึกว่ามีความสำคัญในสายตาเธอเสมอ
4. เมื่อเปิดโอกาสให้แสดงออก เธอจะหลีกเลี่ยงวิธีที่ทำร้ า ยคนอื่น
ต่อให้คุณเผลอแสดงกริย าแ ย่ใส่เธอ เธอก็จะไม่ตอบโต้ด้วยวิธีที่แ ย่กลับไป
ตรงกันข้าม เธอจะพย าย ามเตือนด้วยความสุภาพในแบบที่ทำล า ยน้ำใจระหว่าง
กันน้อยที่สุด แต่ให้คนที่กำลังทำผิดอยู่รู้ตัวได้ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องหาเสียง
โหวตเพื่อให้ใครต้องเสียหน้ากันไปข้างหนึ่งแต่อย่างใดเลย
5. เมื่อมีปัญหา เธอใจเย็นพอที่จะไม่ก่อดราม่าในทันที
ผู้หญิงฉลาดมักมีสติพอจะแยกแยะได้ว่า “ความตรง ไม่จำเป็นต้องแรง” อะไรที่
ออกตัวแรงก่อน บางครั้งอาจให้โทษถึงกับล้มคะมำไม่เป็นท่าได้ เธอจึงเลือกที่จะ
เก็บข้อมูลเงียบ ๆ ให้รอบด้านเสียก่อนที่จะพูดอะไรออกมาเพราะถือว่า
“หัวเราะทีหลังดังกว่า”
6. เธอกล้าพอที่จะยืดอกรับความผิดหรือความผิดหวัง
ถ้าเธอเป็นฝ่ายผิด เธอไม่ลังเลที่จะขอโทษในทันทีโดยไม่บีบน้ำตาลูกผู้หญิง และ
เมื่อพบกับความผิดหวัง หรือจะต้องโดนบอกเลิก สบายใจได้เลยที่จะบอกความจริง
กับเธอตรง ๆ เพราะสิ่งที่เธอเกลี ยดที่สุดก็คือการ โก ห ก หรือต้องรู้ความจริงในภายหลัง
7. อะไรที่พอจะทำได้ เธอมักจะทำเองก่อน โดยไม่ต้องรอพระเอกขี่ม้าขาว
“สุภาพบุรุษ” ในนิย ามของสาวฉลาด มักจะหมายถึงผู้ชายที่เดินเคียงข้างกัน
ช่วยเหลือกันคนละไม้ละมือ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าผู้หญิงต้องใช้สิทธิ “lady first”
อ่อยให้ผู้ชายช่วยเหลือโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย อะไรที่เธอพอจะทำได้ เธอ
ไม่ลังเลที่จะเริ่มด้วยตัวเองก่อน ถ้ามันสุดกำลังจริง ๆ นั่นแหละเธอถึงจะขอ
ความช่วยเหลือคนอื่น การขอความช่วยเหลือทั้งที่ตัวเองทำได้ ในสายตา
ของเธอหมายถึงการเอาเปรียบกัน
8. ถ้าคุณเป็นผู้ตาม เธอจะไม่ทำให้รู้สึกเสียหน้า ถ้าคุณเป็นผู้นำ เธอจะตามทันโดยไม่รู้สึกว่ากำลังเป็นคู่แข่งกัน
“การให้เกียรติคนอื่น” เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอมีแต่คนเป็นมิตร เธอมักให้ความ
สำคัญกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะมีตำแหน่งหรือเปลือกนอกใดก็ตาม
ที่ต่างกัน ใครที่อยู่ด้วยมักจะได้รับความรู้สึกดีจากเธอเสมอ ถ้าคุณกำลังเล่นมุก
ทะลึ่งอยู่ เธอรู้ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งเกินไป ถ้าคุณกำลัง
เล่นมุกแป้ก รู้สึกไม่ค่อยขำ เธอจะมีวิธีแสดงออกที่ดีกว่านั้น ในแบบที่คุณ
ไม่รู้สึกแ ย่กว่าเดิม
9. ทัศนคติของเธอมักเริ่มจากการแสดงความเห็นที่เป็นกลางเสียก่อน
เมื่อเปิดโอกาสให้เธอแสดงความเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่
เธอถนัดหรือไม่ก็ตาม เธอมักจะขอเวลามองให้รอบด้านสักครู่ก่อน แล้วค่อย
มองในมุมที่เธอรู้สึกชอบใจ ต่อให้คุณมีความเห็นที่ขัดใจเธอบ้าง เธอก็มี
ความสามารถที่จะขัดเกลาให้มันดูเบาลงจนน่าฟังไปเสียหมด โดยที่บางครั้ง
ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังกล่อมคุณให้คล้อยตามอยู่
10. เธอไม่เคยปิดกั้นตัวเอง
ผู้หญิงฉลาดมักจะมองเห็นความคุ้มค่าจากการกล้าได้กล้าเสีย ถ้าสิ่งไหนที่
เธอคิดดีแล้วว่าเธอจะดูแลตัวเองได้ เธอไม่ลังเลทันทีที่จะตอบตกลง แต่ถ้า
สิ่งไหนที่เธอคิดแล้วว่ามันไม่คุ้ม เธอก็ไม่ลังเลที่จะปล่อยไปโดยไม่นั่งคร่ำครวญ
เสียดายหรือเสียใจในภายหลัง เรียกง่าย ๆ ก็คือ ผู้หญิงฉลาด มักมีความเป็น
“ใจนักเลง” อยู่ในตัวเองเสมอ
11. เธอเป็นนักปรับตัวที่ดี
เธอไม่เคยหยุดนิ่ง หรือยอมจำนนกับอะไรได้ง่าย ในย ามปกติสุข เธอมักจะมอง
หาความสนุกที่มากกว่านั้น ในย ามที่เป็นทุกข์ เธอก็มักจะมีทางออกที่หลากหลาย
ถ้าจะเรียกว่าเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ ก็ไม่ผิดอะไรนัก
12. เธอฉลาด โดยที่ไม่ต้องอวดฉลาด
สุดท้ายแล้ว คุณสมบัติที่สำคัญที่จะมองว่าผู้หญิงคนนั้นฉลาดจริงหรือไม่ ก็คือ
การมองการแสดงออกของเธอในภาพรวมว่า “เธอมี ดีอะไร” สิ่งที่เธอมี ดี ต้องเป็น
สิ่งที่คนรอบตัวสัมผัสถึงตัวตนได้ โดยที่เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องอวดพร่ำเพรื่อ เรียก
คะแนน l i k e หรือเรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด หรือไม่เคยปริปากบอกใครเลย
แม้แต่น้อย เสน่ห์ของผู้หญิงอย่างหนึ่ง คือ การไม่เปิดเผยตัวตนให้มาก เหมือน
เพชรที่มีประกายอยู่ในตัว ตั้งอยู่ในตู้โชว์บ่อยไป คนก็เริ่มเบื่อ แอบไว้ในหลืบมุมบ้าง
ประกายย่อมเตะตาผู้คนให้อยากรู้อยากเห็นเอง
บทความดีดีจาก jeeb.me