Home ข้อคิดชีวิต อย่าทำตัวเป็น ม้าพันลี้ (ข้อคิดนี้สอนใจได้ดีมาก)

อย่าทำตัวเป็น ม้าพันลี้ (ข้อคิดนี้สอนใจได้ดีมาก)

4 second read
0
0
80

ในดินแดนแสนห่างไกล มีม้าหนุ่มตัวหนึ่ง ที่มี ร่ า ง ก า ย กำยำ แข็งแรง ดูสง่างามความสามารถของม้าตัวนี้ สามารถวิ่งได้ระยะทางถึงพันลี้โดยที่ไม่ต้องหยุดพัก และไม่มีเหนื่อยเลย

จึงทำให้เป็นที่หมายปองของหลายๆคน ที่อยากจะเป็นเจ้าของมันแต่ม้าตัวนี้ก็ไม่ยอมให้ใครขี่เลย เพราะมันกำลังรอผู้ที่เพียบพร้อม เหมาะที่จะขี่มันอยู่ในช่วงเวลาที่ม้า

กำลังมองหาผู้ที่มันคิดว่าเหมาะสมจะขี่มันได้นั้นก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาหาม้าตัวนี้เพื่อจะขี่มันพ่อค้า ได้เข้ามาหาม้า และถามมันว่า.. “เจ้าอยากจะไปกับข้าหรือไม่…

ข้ามีน้ำมี อ า ห า ร ให้กินไม่ขาดนะ” ม้าพันลี้ได้แต่ส่ายหัว และตอบกลับไปว่า.. “ม้าดีๆแบบข้า ไม่ไปกับพ่อค้า ที่ใช้ข้าไปส่งของเฉยๆหรอกนะ” ทหาร ได้เข้ามาหาม้า และถามมันว่า..

“เจ้าอยากจะไปกับข้าหรือไม่…เจ้าจะได้เป็นม้าคู่กายทหารเลยนะ” ม้าพันลี้ได้แต่ส่ายหัว และตอบกลับไปว่า… “ม้าดีๆแบบข้า ทำไมข้อต้องไปรับใช้ทหารธรรมดาแบบเจ้าด้วย”

นายพราน ได้เข้ามาหาม้า และถามมันว่า.. “เจ้าอยากจะไปกับข้าหรือไม่..” ม้าพันลี้ได้แต่ส่ายหัว และตอบกลับไปว่า.. “ม้าดีๆแบบข้า ทำไมต้องไปรับใช้นายพรานแบบเจ้าด้วย”

ไม่ว่าใครจะเข้ามาหา ชักชวนยังไง ม้าพันลี้ก็ไม่ตอบตกลงไปกับใครเลยเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปหลายปี แต่ม้าพันลี้ก็ยังหาเจ้าของที่ถูกใจมันไม่ได้สักทีจนเมื่อข่าวความเก่ง และ

ความสามารถของม้าพันลี้เข้าไปถึงในวัง และไปถึงหูของพระราชาพระราชาจึงได้ออกรับสั่งให้ขุนนางรีบไปตามหาม้าพันลี้ตัวนี้เพื่อมาเป็นพาหนะคู่กายของพระราชาขุนนาง

จึงออกเดินทาง และได้ตามหาม้าพันลี้ตัวนี้จนพบและได้แนะนำตัวเองกับม้าพันลี้ เมื่อม้าพันลี้รู้ว่า คนที่มาหาตน เป็นถึงขุนนางชั้นสูงและจะได้ไปเป็นพาหนะคู่กายของพระราชา

ก็ดีใจมากและตัดสินใจที่จะไปกับขุนนางในทันที เพราะม้าพันลี้ได้เจอกับคนที่เหมาะสมจะขี่มันแล้วแต่ก่อนที่จะได้กลับไปวัง ขุนนางจึงได้ถามม้าพันลี้ว่า

“เจ้าเชี่ยวชาญเส้นทางแถบนี้มากแค่ไหน” ม้าพันลี้ตอบว่า ”ไม่เลย..เพราะข้าไม่เคยเดินทางไปไหนนานมากแล้ว “ ขุนนางจึงถามต่อว่า ”เจ้าเคยมีประสบการณ์ ในการสู้สมรภูมิรบบ้างไหม“

ม้าพันลี้ตอบว่า ”ไม่เลย..เพราะข้าไม่ยอมรับใช้ทหารธรรมดาๆหรอก“ ขุนนางจึงถามต่อว่า ”งั้น…เจ้าเคยเข้าป่าไหม บางครั้งพระราชาก็ชอบไป ล่ า สั ต ว์ นะ“ ม้าพันลี้ตอบว่า

”ไม่เลย..ข้าไม่ใช่ม้าธรรมดา ข้าไม่ยอมไปให้นายพรานใช้งานหรอก“ ขุนนางมองม้าพันลี้ด้วยความสงสัย ว่าทำไมม้าตัวนี้ถึงมีชื่อเสียงไปไกลถึงในวัง ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถ

อะไรเลยขุนนาง เลยพูดขึ้นว่า ”เจ้าไม่เคยทำอะไรมาเลย…แล้วข้าจะเอาเจ้าไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีก“ ม้าพันลี้บอกว่า “ข้าวิ่งเวลากลางวันได้ วันละ พันลี้ กลางคืน แปดร้อยลี้“

ขุนนางจึงเปรยไปว่า “ถ้างั้น เจ้าก็ลองวิ่งให้ข้าดูหน่อย ถ้าเจ้าวิ่งได้เร็วสมคำล่ำลือ ข้าจะพาเจ้ากลับวัง“ ม้าพันลี้จึงเริ่มออกวิ่งด้วยความมั่นใจ และดีใจที่จะได้โชว์ความสามารถ

ของตัวเองให้คนอื่นได้ดูสักทีแต่เมื่อเริ่มออกวิ่งไปได้ไม่นาน ม้าพันลี้ก็เริ่มเหนื่อย หมดแรงซะแล้วขุนนาง จึงพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนตอนหนุ่ม..เจ้าคงจะเก่งมากจริง ๆ

ตามที่คนล่ำลือกันไว้ แต่ตอนนี้เจ้าแก่แล้ว ไม่ไหวแล้วถ้าข้าเอาเจ้าไป คงใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีกแล้ว ข้าว่าเจ้าคงไม่ใช่ม้าที่ข้าตามมาหาแล้วล่ะ“ เมื่อพูดจบขุนนางก็

ขึ้นควบม้าตัวเดิม แล้วจากไปทันที ทิ้งให้ม้าพันลี้ยืนหอบหายใจไม่ทันหายข้อคิดของเรื่องนี้ สอนให้เรารู้ว่า….อย่าหลงทะนงตน อย่าคิดว่าตนเก่งอยู่ค้ำฟ้าตลอดคนเรามีนำหน้า ก็

ต้องมีถอยหลัง หากเราคิดว่าตัวเองเก่ง และหยุดที่จะพัฒนา หรือหาความรู้มาเพิ่มเราก็จะกลายเป็นคนที่ถอยหลัง และคนอื่นจะแซงหน้าเราไปทีละก้าวมีความมั่นใจเป็นเรื่องที่ดี…

แต่อย่าถือทะนงตน จนเกินไปเมื่อใดที่คิดว่าตนเองสุดยอด…จนไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเมื่อนั้นความ ห า ย น ะ จะมาเยือนเพราะเราจะหยุดพัฒนาตนเอง…จนมีแต่ทรงกับทรุด เท่านั้นเอง

ขอบคุณ r u g y i m

Load More Related Articles
Load More By Stay
Load More In ข้อคิดชีวิต

Check Also

นิสัย 9 ข้อไม่ควรมี ถ้าจะเป็นเถ้าแก่เงินล้าน

การจะทําธุรกิจซักอย่างหนึ่งให้ประสบความสําเร็จให้ได้นั้นคุณต้องวางแผนการอย่างรัดกุม ยิ่งถ้…