บางที…การที่เรารู้สึก แ ย่ และหมดกำลังใจกับเส้นทางชีวิตที่เผชิญอยู่ตอนนี้อาจจะไม่ได้มาจากอุปสรรค และปัญหาที่เจออยู่ แต่อาจจะเป็นเพราะ “ตัวเราเอง”
เพราะเรา…มักจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของคนอื่นเพราะเรา…มักจะเอาเวลาของคนอื่น มากำหนดเวลาชีวิตของเราว่าเราต้องเรียนจบ มีงานทำตอนอายุเท่านี้
ต้องมีรถมีบ้านตอนอายุเท่านั้นต้องแต่งงานสร้างครอบครัว และมีลูกตอนอายุเท่านี้เพราะคนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ เราจึงต้องเป็นแบบนี้ด้วยแต่ในความเป็นจริงแล้ว
ทุกคนต่างมีเวลาที่เหมาะสมเป็นของตัวเองอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครจนเราหมดกำลังใจเจ.เค โรลลิ่ง ต้องรอจนอายุ 32 จึงจะได้ตีพิมพ์แฮร์รี่ พอตเตอร์
หลังจากถูกปฏิเสธจาก 12 สำนักพิมพ์แจ๊ค หม่า เคยโดนเคเอฟซีปฎิเสธรับเข้าทำงาน แต่เขากลับก่อตั้งอาลีบาบาตอนเขาอายุ 35 และในไม่กี่สิบปีต่อมาเขาก็ ซื้ อ แฟรนชาย
กิจการเคเอฟซีทั้งหมดในจีนมอร์แกน ฟีแมน ประสบความสำเร็จตอนอายุ 52ประธานาธิบดีโอบาม่า วางมือจากการเมืองในอายุ 55 ปีขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีในวัย 70 ปี
การได้รับปริญญาของคุณหลังจาก 25 ปี ยังคงเป็นความสำเร็จการไม่ได้แต่งงานตอนอายุ 30 แต่ยิ้มได้ทุกวันก็เป็นเรื่องสวยงามการเริ่มต้นครอบครัวหลังจาก 35 ปี
ยังคงไม่สาย และการ ซื้ อ บ้านหลัง 40 ปี ยังคงเรื่องน่ายินดีบางคนประสบความสำเร็จก่อนเรา แต่ไม่ได้หมายความว่า “เรา… แ ย่ กว่าเขา” บางคนประสบความสำเร็จทีหลังเรา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “เรา…เก่งกว่าเขา”ทุกคนต่างมีลู่วิ่งของตัวเอง และต้องต่อสู้กับเส้นทางของตัวเองที่ไมเหมือนกันมันไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบได้ ว่าเส้นทาง
ของใครดีกว่า ใคร แ ย่ กว่าผลลัพธ์ขึ้นอยู่ที่ว่า เราวิ่งไปถึงเส้นชัยในลู่วิ่งของตัวเองหรือเปล่าต่างคนต่างต้องทำงานหนัก ในเส้นทางของตัวเองด้วยกันทั้งนั้นอย่าเสียเวลา
ไป อิ จ ฉ า หรือ คอยจับผิดใครๆชีวิตของแต่ละคนมีช่วงเวลาที่จะสำเร็จแตกต่างกันไม่มีหรอกคำว่าล้มเหลว มีแต่ยอมแพ้แล้วล้มเลิกไม่มีอะไรที่ “เร็วไป” หรือ “ช้าไป”
สิ่งสำคัญที่สุด คือ การที่เราสร้างชีวิตที่มีความหมายและมีจุดมุ่งหมายสำหรับตัวเราเองและเรียนรู้วิธีการสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของคนอื่น “นั่นจะเป็นความสำเร็จที่แท้จริง”
Cr. ขอบคุณข้อคิดดีๆจาก : HeySuccess , Pro Chain