เด็กหนุ่ม คนหนึ่ง เป็นชาวสงขลา เรียนเก่งมากได้ทุนไปเรียนอเมริกา ตั้งแต่เด็กจนจบด็อกเตอร์จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน บ้านของเด็กหนุ่มอยู่อีกฟากหนึ่ง ของทะเลสาบสงขลา
ต้องนั่งเรือแจวข้ามไป “เรือที่ติดเครื่องยนต์ไม่มีเหรอลุง?” “ไม่มีหรอกหลาน ที่นี่มันบ้านนอก มันห่างไกลความเจริญมีแต่เรือแจว” “โอ…ล้าสมัยมาก เลยนะลุง โบราณมาก
ที่อเมริกาเขาใช้เครื่องบินกันแล้วลุงลุงยังมานั่งแจวเรืออยู่อีก ไปส่งผมฝั่งโน้น เอาเท่าไหร่ลุง?” “80 บาท” “OK…ไปเลยลุง” ในขณะที่ลุงแจวเรือ หนุ่มนักเรียนนอก
ก็เล่าเรื่องความทันสมัยความก้าวหน้าความศิวิไลช์ ของอเมริกาให้ลุงฟัง “เมืองไทย…เมื่อเทียบกับอเมริกาแล้ว ล้าสมัยมาก ไม่รู้คนไทยอยู่กันได้ยังไง?ทำไมไม่พัฒนา
ทำไมไม่ทำตามเขาเลียนแบบเขาให้ทัน?ลุง…ลุงใช้คอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นไหม?“ “ลุงไม่รู้หรอก…ใช้ไม่เป็น” “โอโฮ้…ลุงไม่รู้เรื่องนี้น่ะ ชีวิตลุงหายไปแล้ว 25 %”
“แล้วลุงรู้ไหมว่า เศรษฐกิจของ โลกตอนนี้เป็นยังไง?” “ลุงไม่รู้หรอก” “ลุงไม่รู้เรื่องนี้นะ ชีวิตของลุงหายไป 50 %” “ลุง…ลุงรู้เรื่องนโยบาย การค้าโลกไหมลุง? “
“ลุง…ลุงรู้เรื่องดาวเทียมไหมลุง? “ “ลุงไม่รู้หรอก…หลานเอ๊ย” “ชีวิตของลุง ลุงรู้อยู่อย่างเดียวว่าจะทำยังไงถึงจะแจวเรือให้ถึงฝั่งโน้นถ้าลุงไม่รู้เรื่องนี้ ชีวิตของลุงหายไปแล้ว 75 %”
พอดีช่วงนั้นเกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง คลื่นลูกใหญ่มาก ท้องฟ้ามืดครึ้ม “นี่พ่อหนุ่มเรียนหนังสือมาเยอะจบดอกเตอร์ จากต่างประเทศ ลุงอยากถามอะไรสักหน่อยได้ไหม?“
“ได้…จะถามอะไรหรือลุง“ “เอ็งว่ายน้ำเป็นไหม?“ “ไม่เป็นจ๊ะ…ลุง” “ถ้างั้นชีวิตของเอ็งกำลังจะหายไป 100% แล้วพ่อหน่ม” อย่าคิดว่าตัวเราเหนือกว่าคนอื่นเพียงแค่มีการศึกษาสูง
ยังมีประสบการณ์ชีวิตที่ต้องศึกษาอีกมาก แม้จะไม่มีใบประกาศมอบให้ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดสำนวนนี้ หมายถึงคนที่มีวิชาความรู้ดี หรือ รู้ ส า ร พั ด เกือบทุกอย่าง
แต่ถึงคราวเกิดเรื่องมีปัญหาขึ้นกับตัวเอง กลับจนปัญญาแก้ไข หรือมีความหมายอีกทางหนึ่งว่า… มีความรู้อยู่มากมาย แต่ใช้วิชาหากินไม่ถูกช่องทำให้ต้องตกอยู่ในฐานะ
ที่ลำบากยากจนเรื่อยมาสู้คนที่ไม่รู้หนังสือเลยแต่หากินจนร่ำรวยได้จึงเป็นที่มาของสุภาษิตสำนวนไทย ที่ว่า ความรู้ท่ว มหัวเอาตัวไม่รอด
ขอขอบคุณ chayend