ค้าขายดีมาก ทำขายแทบไม่ทันแต่ละวัน แต่ทำไมถึงเจ๊งได้ บางคนอาจจะไม่เชื่อค้าขายดีก็ต้องรวย ข ย า ย กิจการได้สิ จะเจ๊งได้ยังไง แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆแม้แต่
ตัวเจ้าของธุรกิจเองก็ยังงง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะเกิดกับธุรกิจเล็กในบ้านเราที่มีเจ้าของคนเดียวเป็นคนเริ่มต้น อย่างเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านขาย อ า ห า ร ตามสั่ง ร้านขายส้มตำ หรือ
ธุรกิจเล็กๆแล้วทำไมธุรกิจเล็กๆเหล่านี้ที่ขายดี แต่กลับต้องปิดตัวลง นั่นเป็นเพราะว่าขายดีแต่กลับไม่เห็นกำไร แล้วสาเหตุมันมาจากไหน ผมจะยกตัวอย่างเพื่อน
ผมให้ฟังตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขามีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง มีลูกค้าตลอดยอดขายแต่ละวันก็ดีมาก แต่ก็ยังต้องไปกู้หนี้มาใช้ต่ออายุธุรกิจเขาจึงได้มาปรึกษาผมว่า
ทำไมขายดีขนาดนี้ แต่กลับจะเจ๊งเหมือนมองไม่เห็นกำไรเลยผมจึงถามเขาว่า “เจ้าของธุรกิจ ได้เงินเดือนเดือนละเท่าไหร่?…” เขาตอบกลับมาว่า “เป็นเจ้าของ ทำไมต้องมีเงินดือน
ขายได้เท่าไหร่ก็เป็นของเขาหมดอยู่แล้ว” ผมบอกทำไแบบนั้นไม่ได้ มันผิด!! แล้วผมก็ถามเขาต่อว่า “เจ้าของกิจการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่?…” เขาคิดอยู่นานก่อนจะตอบ และพูดว่า
”ไม่รู้หรอกว่าเดือนเท่าไหร่เพราะไม่เคยนับ เวลาจะใช้อะไรก็หยิบเอาจากเก๊ะเก็บเงินไปจ่าย” ผมจึงถามคำถามสุดท้าย “แล้วเงินที่หยิบออกไป เอาไปใช้จ่ายค่าอะไรบ้าง”
คราวนี้เขาอธิบายมาซะ ยื ด ย า ว “ก็ ซื้ อ ทุกอย่างที่ต้อง ซื้ อ จ่ายทุกอย่างที่ต้องจ่าย ซื้ อ ของเข้าร้าน จ่ายเงินลูกจ้าง ให้ลูกไปโรงเรียนค่ากับข้าวในบ้าน ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำไฟ
จิปาถะอ่ะแหละ” ผมฟังแบบนี้ก็ได้ตอบ ผมจึงบอกเขาไปว่า “นั่นแหละคือสาเหตุว่าทำไมธุรกิจนายที่ขายดีทุกวัน แต่ทำไมถึงจะเจ๊ง” ธุรกิจส่วนใหญ่ที่สร้างมาเองกับมือ
แบบเพื่อนผม มักจะไปไม่รอดเพราะเป็นเพื่อนผมนี่แหละเพราะเจ้าของไม่เคยมีเงินเดือนให้ตัวเอง อยากใช้เท่าไหร่ก็ใช้ มีเท่าหร่ก็จ่ายออกหมดเพราะคิดว่าเงินตัวเอง
จะใช้เท่าไหร่ก็ได้ และก็ไม่เคยจดบันทึกรายการว่าใช้ไปกับอะไรบ้าง จึงเป็นสาเหตุใหญ่ๆ 3 เรื่อง ดังนี้
1. ไม่ตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง ไม่แยกเงินธุรกิจออกจาเงินส่วนตัว
ถึงแม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง แต่การตั้งเงินเดือนให้ตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเราจะได้รู้ว่าเรามีรายได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน และใช้ได้เท่าไหร่เพื่อที่จะไม่เกินจากนี้
เพราะถ้าธุรกิจมีรายจ่ายที่ไม่จำกัดไม่แน่นอนในแต่ละเดือน จะทำให้เราคุมบัญชีได้ยากดังนั้นเจ้าของธุรกิจจึงควรตั้งเงินเดือนให้ตัวเองและใช้จ่ายจากเงินเดือนไม่ใช่จาก
รายได้ของธุรกิจทั้งหมด ถ้าเงินเดือนที่ได้ไม่พอใช้ก็ต้องไปยืมจากบัญชีส่วนอื่นและต้องทำการจดบันทึกไว้ และคืนเงินจำนวนนั้นใส่คืนด้วยอย่างเคร่งครัด
2. ไม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
บางคนอาจจะไม่ชอบการทำบัญชีบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตัวเองแต่ละวันซึ่งเป็นบัญชีส่วนตัว แต่การทำธุรกิจต้องมีบัญชีรายรับ-รายจ่ายและจำเป็นต้องทำให้เป็นนิสัย
เพราะเราจะได้รู้ว่าในแต่ละเดือน ล ง ทุ น ไปเท่าไหร่ใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง และได้กำไรมาเท่าไหร่ คุ้มค่าที่จะทำต่อไปหรือไม่อย่าเห็นว่าธุรกิจไปได้ดี มียอดขายเยอะ
อยากจะใช้จ่าย หยิบออกไปตอนไหนก็ได้ทำแบบนั้นจะส่งผลกระทบกับธุรกิจใน ร ะ ย ะ ย า ว ทำให้มีกำไรแบบไม่รู้ตัว และเจ็งแบบไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
3. ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์
การหยิบเงินไปใช้จ่ายกับทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผิด อย่างเช่น จ่ายค่าบ้าน ผ่อนรถ สังสรรค์หรือซ์้อของเข้าบ้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ควรจะเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินจากการ
ทำธุรกิจถึงจำเป็นต้ฟองตั้งเงินเดือนให้ตัวเองเพื่อที่จะรู้ค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละเดือนส่วนเงินธุรกิจ ควรจะใช้จ่ายไปกับการ ซื้ อ ของสำหรับเข้าร้าน วัตถุดิบค่าจ้างพนักงาน หรือ
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเท่านั้นหากเราไม่แยกบัญชีส่วนตัว กับบัญชีธุรกิจออกจากกันอย่างสิ้นเชิงเราจะไม่รู้เลยว่าต้นทุนเท่าไหร่ ค่าดำเนินการเท่าไหร่และ
กำไรขาดทุนเท่าไหร่ จะทำให้ทุนหด กำไรก็หายในที่สุด
ที่มา : b i t c o r e t e c h