ชื่อว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนคงเคยเจอปัญหาเงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือนหรือมีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน ลำบากเหลือเกิน ไม่มีเงินเก็บเลยก็รู้สึกว่าเงินที่ได้มา
มันก็ไม่น้อยนะ แต่พอเลยต้นเดือนมาแล้วเงินหายไปไหนหมดนะอุ๊ย! นั่นของ SALE นี่นา ไม่ได้แล้วต้องรีบไป ซื้ อ อันนี้ก็ เ ซ ล ล์ อันนู้นก็ เ ซ ล ล์ ช้อปๆๆกระจาย
มีความสุขมากเลย พอมารู้ตัวอีกทีอ้าว เงินในกระเป๋าหายไปไหนหมดถ้าคุณกำลังเจอปัญหาแบบนี้ เป็นไปได้ว่าคุณอาจกำลังเป็นคนที่ “ใช้เงินเกินตัว”อยู่ก็ได้ เป็นแบบนี้ต่อไป
ไม่ดีแน่ๆ เพราะอาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินและลำบากในอนาคตมากขึ้นไปอีก คนที่เหนื่อยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัวคุณเองก่อนที่จะใช้เงินเกินตัวไปมากกว่านี้มาดูเคล็ดลับ
การแก้นิสัยใช้เงินเกินตัวกันหน่อยดีกว่า
1.ปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
พูดน่ะมันง่าย แต่ทำมันยากเหลือเกินค่ะ แต่ก็ต้อง พ ย า ย า ม นะคะให้คุณนึกไว้เสมอว่าหากเราไม่ยับยั้งชั่งใจที่จะใช้เงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็อาจทำให้เราต้องเหนื่อย
ในอนาคตข้างหน้า ดังนั้น คุณควรฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งและตระหนักถึงความจำเป็นก่อนที่จะควักกระเป๋าจ่ายเงินให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
2.ใช้เงินสด ซื้ อ ของ
บัตรเดบิตไม่เท่าไหร่ แต่ บั ต ร เ ค ร ดิ ต นี่สิคะ ง่ายในการจับจ่ายใช้สอยทำให้คุณเผลอลืมตัวไปว่าใช้เงินไปมากแค่ไหนแล้ว จริงอยู่ที่การใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ตสะดวก
ตรงที่ไม่ต้องพกเงินสดเยอะๆ หนักๆ เอาไว้ในกระเป๋าแต่การพกเงินสดนั้นก็ดีตรงที่เราจะไปรู้ว่าเราใช้เงินไปเท่าไหร่และเราเหลือเงินที่สามารถใช้ได้อีกเท่าไร พูดง่ายๆก็คือ
เราจะสามารถจัดระเบียบการใช้เงินได้ง่ายกว่านั่นเองค่ะ
3.เลิกใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ หรูหรา
หากคุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย หรือชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ซื้ อ ของราคาแพง จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าเรามีเงินมากพอแต่ถ้าการใช้ชีวิตแบบนั้น
มันทำให้เราเสียเงินที่มีอยู่น้อยนิดไปโดยใช่เหตุ ก็ควรต้องเพลาๆ ลงบ้างแล้วลองพิจารณาดูว่าหากเราลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงได้เราก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นนะอาจจะไม่สะดวกสบาย
เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ต้องลำบากในอนาคต
4.เลือกคบเพื่อนที่ไม่พากันไปเสียเงิน
การเลือกคบเพื่อนก็มีอิทธิพลต่อการใช้เงินอยู่เหมือนกันค่ะ ยิ่งขาช็อปแล้วด้วยก็คงจะพากัน ซื้ อ ของช็อปกันสนุกสนานเลย ไม่มีใครห้ามใคร เผลออีกทีก็เงินหมดทั้งคู่แล้ว
แต่จริงๆ แล้วข้อนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ น้อยส่วนนักที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ถ้าเรามีสติในการใช้เงินซะอย่าง เพื่อนช็อปเราก็ห้ามเพื่อนเราช็อปเพื่อนก็ห้าม
ผลัดกันเตือนสติน่าจะเป็นอะไรทีด่ีที่สุดเลยล่ะค่ะ
5.วางแผนการเงินให้ชัดเจน
หากคุณไม่มีความหนักแน่นหรือไม่มีเป้าหมายทางการเงิน ทั้งแบบระยะสั้น- ร ะ ย ะ ย า ว จะทำให้คุณสูญเสียประสิทธิภาพในการจัดลำดับความสำคัญทางการเงิน
ว่าเรื่องใดที่สำคัญมากเรื่องใดที่สำคัญน้อย สุดท้ายแล้วก็จะพ่ายแพ้ต่อกิเลสและใช้เงินไปจนหมดทางที่ดีก็คือต้องวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือน ว่าจะใช้จ่ายไป
กับอะไรเป็นจำนวนเท่าไรเดือนนี้จะเก็บเงินเท่าไร หรือวางแผนจะ ซื้ อ ของสักชิ้น ต้องเก็บเงินนานแค่ไหนและทำตามเป้าหมายนั้นให้ได้ หากคุณไม่สันทัดเรื่องการวางแผนก็
ลองปรึกษาคนใกล้ตัวที่เก่งเรื่องบริหารเงินดูนะคะ
6.ตั้งสติก่อนจ่าย
เวลาที่คนเรามีเงินเยอะๆ อยู่ในครอบครอง ก็ไม่แปลกที่เราจะอยากนำไปใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองบ้างแต่เงินที่ว่าเยอะนั้นก็มีวันที่จะหมดไปได้ ถ้าใช้อย่าง
ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจดังนั้น ก่อนที่จะควักเงินจ่ายไปกับอะไรสักอย่างอยากให้ตั้งสติให้ดีเสียก่อนว่าเราอยากได้ของสิ่งนี้จริงๆ หรือไม่และมันจำเป็นต้อง ซื้ อ ในตอนนี้เลยหรือ
ไม่ลองใช้เวลาในการชั่งใจก่อนหยิบเงินออกมาจ่ายเพราะเงินก็เหมือนสายน้ำจ่ายไปแล้วไม่หวนคืนนะคะในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีอย่างเช่นตอนนี้ เราควรเก็บเงินเอาไว้บ้าง
เพราะหากเกิดเหตุการณ์ ฉุ ก เ ฉิ น หรือมีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้เงินขึ้นมาเราจะได้มีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในอนาคตค่ะเงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต
เพราะฉะนั้นอย่าลืมตั้งสติก่อนควักกระเป๋าจ่ายเงินนะคะ จะได้มีเงินเก็บเยอะๆ
ที่มา : t o d a y . l i n e . m e