1. เก็บเงิน ซื้ อ บ้านก้อนแรกสำหรับดาวน์บ้าน 20%
ในการวางแผนเก็บเงิน ซื้ อ บ้านสักหลังหรือคอนโดสักห้องนั้น ส่วนใหญ่จะ ซื้ อ แบบเงินผ่อน แต่ก่อนจะ
ซื้ อ เราต้องไม่ลืมเก็บเงิน ซื้ อ บ้านก้อนแรกสำหรับเงินดาวน์ หรือเงินส่วนต่าง นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
เช่น ค่า โ อ น กรรมสิทธิ์ ค่านายหน้า ค่าจดจำนอง เป็นต้น
การวางแผนเก็บเงิน ซื้ อ บ้าน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เมื่อประเมินคร่าว ๆ ควรมีอย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน
คราวนี้มาดูเป้าหมายของตนเองว่าต้องการวางแผนเก็บเงิน ซื้ อ บ้านหลังแรกให้ได้ภายในกี่ปี
เช่น นายประหยัด ต้องการวางแผนเก็บเงิน ซื้ อ บ้านหลังละ 2,500,000 บาท ภายใน 5 ปี
(2,500,000×20% = 500,000 บาท) เท่ากับว่าภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น
นายประหยัดต้องมีเงินเก็บถึง 500,000 บาทเลยทีเดียว
2. เงินเข้าปุ๊บ ออมทันที อย่าใช้ก่อนแล้วค่อยออมเงิน
เมื่อรู้ว่าต้องมีเงินเท่าไรสำหรับเงินดาวน์และค่าเดินเรื่อง ซื้ อ ขายต่าง ๆ ก้อนแรกแล้ว ทีนี้มาดูวิธีเก็บเงิน
ซื้ อ บ้านเพื่อพิชิตเป้าหมายกันบ้าง สำหรับพนักงานประจำที่มีรายได้แน่นอนทุกเดือน
อาจเลือกใช้วิธีตัดเงินเดือนเข้าบัญชีเงินออมแบบอัตโนมัติทันที เพื่อไม่ให้เราเผลอใช้จนลืมเก็บไปซะก่อน
ขอยกตัวอย่างจากข้อก่อนหน้านี้ที่ต้องมีเงินดาวน์ 500,000 บาทนั้น
หากต้องการเก็บเงิน ซื้ อ บ้านในจำนวนเท่ากันทุกเดือน สามารถคำนวณได้ดังนี้
500,000 บาท / (12 เดือน x 5 ปี) ก็จะได้ประมาณ 8,400 บาทนั่นเอง ส่วนฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่เท่ากันทุกเดือน
อาจต้องเพิ่มวินัยทางการเงินสักหน่อย หรือเดือนไหนมีรายได้เข้ามาเยอะก็พยายามเก็บให้ได้มากที่สุด
3. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง
ไม่ใช่แค่มีเงินดาวน์ครบแล้วจะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้ ต้องไม่ลืมว่ายังมีค่าผ่อนรายเดือน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ไหนจะค่าประกัน ค่านิติบุคคล ค่าส่วนกลาง หรือตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ชอบอีก ซึ่งกว่าจะหมดต้องใช้เวลาอย่างต่ำ
10 ปีแน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น ช้อปปิ้งอย่างมีสติ
ไม่สร้างภาระให้ตัวเองต้องลำบากในภายหลัง ในกรณีที่มีหนี้สินค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนี้
บั ต ร เ ค ร ดิ ต หนี้ผ่อนชำระสินค้า หรือหนี้รถยนต์ ควรจัดการให้เรียบร้อยก่อน
เพื่อให้เรามีกำลังผ่อนบ้านได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้ก้อนอื่นเลย
ซึ่งเราขอแนะนำว่าควรเผื่อเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อย่างน้อย 25-30% ของเงินเดือน
4. เลือกสินเชื่อบ้านที่ดีและเหมาะกับตัวเองที่สุด
อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับคนที่กำลังวางแผน ซื้ อ บ้าน คือสินเชื่อบ้าน หลายคนมักเลือกกู้สินเชื่อบ้าน
กับสถาบันการเงินที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด พิจารณาได้จากอัตราดอกเบี้ย
แต่ต้องดูในภาพรวมด้วยว่าเหมาะสมกับระยะเวลาผ่อนชำระหรือไม่
ไม่ใช่ดูแค่ว่าดอกเบี้ยในปีแรกต่ำเท่านั้น โดยแบ่งเป็นประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่
หมายถึงดอกเบี้ยที่ต้องชำระในช่วง 1-5 ปีแรกจะยังคงที่ และค่อยปรับเป็นแบบลอยตัวตาม
เงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนดอีกประเภทหนึ่งคืออัตราดอกเบี้ยที่ลอยตัว หมายถึงจำนวนดอกเบี้ย
ที่ต้องชำระคงที่ในช่วงแรกเท่านั้น จากนั้นจะปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดเงิน สถาบันการเงิน
ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าแต่ละปีจะปรับเท่าไรซึ่งบางปีอาจปรับขึ้นสูง และอย่าลืมว่าอัตราดอกเบี้ยบ้าน
ของบ้านใหม่กับบ้านมือสองก็ไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ต้องดูค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น
ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ จดจำนอง ไถ่ถอนจำนอง ค่าประเมินมูลค่าประกัน ฯลฯ
5. หารายได้เสริม หรือ ล ง ทุ น เพิ่ม
อีกทางที่อาจเป็นวิธีเก็บเงินเพิ่มเติมให้คุณมีเงินก้อนสำหรับ ซื้ อ บ้านที่ใหญ่ขึ้นก็คือการหารายได้เสริม
คุณอาจเปลี่ยนความชอบ ความสามารถ หรืองานอดิเรกของตนเองเป็นอาชีพเสริม เช่น เขียนบทความ
ถ่ายรูป เป็นนายหน้า ขายของออนไลน์ เป็นต้นรวมทั้งการ ล ง ทุ น ให้เงินออมเติบโต ได้แก่ ตรา ส า ร หนี้
ซื้ อ พันธบัตร หุ้น กองทุนรวมหุ้น หรือสลากออมทรัพย์ ฯลฯ คุณก็สามารถเลือกประเภทการ ล ง ทุ น
ที่เหมาะสมกับคุณได้ ยกตัวอย่างเช่นกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญดูแลพอร์ตให้ อาจได้กำไรเฉลี่ยปีละ
5-10% ที่มากกว่าผลตอบแทนฝากเงินประจำ (0.5-2%) หรือการ ซื้ อ สลากออมทรัพย์ระยะเวลา
3 – 5 ปี ก็เป็นการเก็บเงินที่มั่นคงและมีลุ้นได้ผลตอบแทนแบบสลากกินแบ่งอีกด้วย ทั้งนี้ การ ล ง ทุ น
ไม่ว่าจะประเภทใดก็มีความเสี่ยง ยิ่งผลตอบแทนสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงอยาก ซื้ อ บ้านในฝันต้องวางแผนอยู่พอสมควร
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป สิ่งเล็กๆ อย่างการเก็บเงินเปรียบเสมือนก้าวแรกในการออกเดินทาง
ด้วยขั้นตอนการเก็บเงินที่รวบรวมมาในบทความนี้น่าจะเป็นแผนที่ที่ช่วยให้คุณเก็บเงิน ซื้ อ บ้านได้อย่างใจ
ที่สำคัญควรวางแผนเก็บเงิน ซื้ อ บ้านที่เรามีกำลังผ่อนไหว เพื่อไม่ให้เป็นภาระเกินตัวจนเราผ่อนบ้านอย่างไม่มีความสุข
ที่มา : krungthai , ghbank