คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ว่า “คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
พูดง่ายๆก็คือ ถ้าเราคบกับคนประเภทไหน เราก็จะเป็นคนแบบนั้น แต่ทว่าการที่เราจะดี
จะชั่ ว มันก็ขึ้นกับตัวเราเลือกเองไม่ใช่หรือ เพราะมนุษย์เราทุกคนมีความอ่อนแอก็จริง
แต่ก็มีศักยภาพพอที่จะคิดเองได้ เลือกเองได้ และคงไม่อ่อนแอถึงกับให้คนอื่นชักจูง
ได้ง่ายแน่ ชีวิตเราเป็นของเรา ไม่มีใครมาเปลี่ยนตัวเราได้ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนเสียเอง
การหลบหลีกก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดเท่าการเผชิญหน้า และในทุกความสัมพันธ์
ทุกสังคม ย่อมมีคนดีคน เ ล ว ปะปนกันไปเราเลือกไม่ได้เช่นกันที่จะเปลี่ยนใครให้ได้
ดั่งใจเราไปหมด ทุกที่ที่เราไปล้วนแต่ต้องการการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทั้งนั้นและ
ถ้าคุณได้หลุดเข้าไปอยู่ในสังคมที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งไม่ดี คนไม่ดี 11 วิธีต่อไปนี้
จะทำให้คุณอยู่ได้อย่างสบายหายห่วง
1. ไม่คิดเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของตัวเอง ต่อให้คุณอยู่ท่าม กลางบรรย ากาศของความขัดแย้ง
เพื่อนทะเลาะกันคุณก็เป็นเพียงแค่บุคคลที่สาม ทำได้แค่เพียงรับฟังปัญหาที่เขาระบาย
แต่ไม่ควรเจ้ากี้เจ้าการเข้าไปช่วยยุติปัญหาของพวกเขาหรือเก็บเอามาคิดเอง เ ค รี ย ด เอง
ให้เสียสุขภ าพจิตเปล่าๆ
2. ใจเย็น ทำใจเป็นกลางกับทุกเรื่องรอบตัวแล้วปล่อยวาง มันไม่ใช่เรื่องของคุณ
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
3. พาตัวเองออกจากสถานการณ์แ ย่ๆ นั้น ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องขังตัวเองไว้กับ
สถานการณ์แ ย่ๆ
หรือสแตนบาย จุ ด เ กิ ด เ ห ตุ หวังดีเผื่อว่าเพื่อนจะขอความช่วยเหลือได้ทัน เพราะ
ไม่คุณจะโดนลูกหลงเอาได้คุณก็จะเสีย สุ ข ภ า พ จิ ต เสียเอง พาตัวเองออกมา
สแตนบายไกลๆ แบบอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆนอกจากจะทำให้คุณปลอดภัยขึ้น
มันยังทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นที่ไม่ต้องทนเห็นอะไรแ ย่ๆ อีกด้วย
4. สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะถอนหายใจกับบรรย ากาศรอบตัว ที่ชวน ป วดหัว
ให้สูดหายใจเข้าลึกๆเรียกสติและพลั ง เข้าตัวเอง นี่ไม่ใช่เรื่องของฉัน และ
ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง ฮึบ!
5. นับ 1-10 ถ้ายังไม่โอเคก็นับ 1-20 ถ้าจู่ๆ ต้องพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์
ตึง เ ค รี ย ดเช่น การเข้าประชุม หรืออยู่ดีๆ ก็มีคนเอาเรื่องอึดอัดใจมาโยนให้ทั้งที่
ไม่ใช่ธุระของเรา ใจร่มๆ เข้าไว้นับ 1-10 ตั้งสติ รั้งตัวเองไม่ให้บ้ า ไปตามแรงยั่ ว ยุนั่น
แล้วแจกยิ้มออกไป
6. ออกกำลังกาย ถ้ายังรู้สึกค้างคาใจ อึดอัดใจที่จู่ๆ ก็โดนหาเรื่องในที่ทำงาน หรือ
โดนเพื่อนพาลใส่โดยไม่ทราบสาเหตุเก็บความอึดอัดใจนี้มาระบายกับการออกกำลังกาย
เพราะนอกจากร่างก าย จะสุขภ าพ ดีแล้ว ส มอง คุณยังโล่งขึ้นจากการหลั่ ง ส าร
เอนโดรฟิ น ขณะออกกำลังกายด้วย
7. พูดออกมาดังๆ ยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ปลุกพลั ง ให้กับตัวเองด้วยการพูดแต่
คำที่มีความหมายดีๆออกมาดังๆ “ฉันสวย! ฉันรวย! ฉันเก่ง!” ต่อให้โลกแ ย่แค่ไหน
เจอคนไม่ดียังไง ฉันมี ดีของฉัน !
8. ง่วนอยู่กับกิจกรร มบางอย่าง ออกไปเที่ยวสักทริปย าวๆ แต่งสวน จัดบ้าน
เล่นดนตรี นอกจากจะ ผ่ อน คลายตัวเรายังจะมีสมาธิกับสิ่งที่ทำอยู่จนไม่คิดถึง
เรื่องแ ย่ๆ ที่ได้เจอมาปะปนกันอีกด้วย
9. พาตัวเองออกไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ ออกจากภาระงานที่เ ค รี ย ด บรรย ากาศ
ทะเลาะเบาะแว้งเข้าไปอยู่ในที่สบายๆ ไม่ว่าจะขับรถออกไปที่ไกลๆ หาร้านกาแฟเงียบๆ
นั่งพัก เข้าวัดทำบุญหรือที่ไหนก็ได้ที่คุณ ผ่ อน คลายมากขึ้นและทำให้มองเห็น
อะไรดีๆ จากสิ่งรอบตัวมากขึ้นด้วย
10. อย่ าถือโทษโกรธเคือง เมื่อปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์ แ ย่ๆ มันก็คือการทิ้ง
เรื่องให้มันกองอยู่ตรงนั้นอย่ าเอามาคิดติดตัวด้วยเหมือนพกของสำคัญไปตามที่ต่างๆ
อะไรที่ไม่ดีก็โยนทิ้งไปไม่จำเป็นถึงกับต้องเอามาใส่ใจให้มากหรอก
11. หันหน้าเข้าหาธรรม ละ กิ เ ล ส ละความโลภ โกรธ หลง แล้วมาทำบุญทำทานให้จิตใจ
สงบขึ้นเราไม่มีทางรู้แน่ชัดว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยอะไรได้ แต่อย่างน้อยการที่เราได้สละทาน
ได้ทำบุญ ได้เป็นผู้ให้มันก็เป็นการกระทำที่ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นทันตาอย่างบอกไม่ถูก
แต่เห็นได้ชัดและไม่ว่าคุณจะอยู่ใน สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนึกถึงเรื่องธรรมะที่เป็นการ
นึกถึงในสิ่งดีๆ แล้วอย่ าลืมมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ คิดบวกกับทุกสิ่งเสมอด้วย
ขอขอบคุณ j e e b.m e