บทที่ 1 “ยิ้มไว้เสมอ”
การยิ้มให้ตัวเองที่หน้ากระจก นอกจากทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วแล้ว
การยิ้มยังทำให้ความ เครีย ด ลดลงได้อีกด้วย จำไว้อีกนิดว่ากล้ ามเนื้ อที่ใช้
ในการยิ้มมีไม่มากเท่ากล้ ามเ นื้อที่ใช้ในการทำหน้าบึ้ง
บทที่ 2 “ทบทวนสิ่งดีๆในชีวิต”
เปิดอ่ านบันทึกของวันดีๆ เปิดดูภาพถ่าย/คลิปวิดีโอสั้นๆของช่วงเวลาที่
เราประทับใจ ช่วงเวลาของความสำเร็จหรือความภาคภูมิใจในวันเก่าๆ
ทั้งหมดสามารถทำให้ความคิดร้ า ยๆ ค่อยๆจางไปได้ ทำให้ความคิด
ด้านดีๆทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม ค่อยๆกลับมา
บทที่ 3 “ให้รางวัลตนเองบ้าง” (แม้จะแค่เป็นเรื่องเล็กๆ)
คำชม ของขวัญ ดอกไม้ โอกาสพิเศษที่จะได้ทำกิจก ร ร มใหม่ ฯลฯ
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ ตัวเราสมควรมอบให้กับตัวเราบ้าง ความคิดบวก
จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าเรายังไม่สามารถรู้สึกดีกับตัวเราเองได้
บทที่ 4 “เลิกเป็นคนขี้บ่น”
การบ่น เป็นการย้ำถึงความคิดด้านลบและแสดงมันออกมาเป็นคำพูด
นอกจากทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีแล้ว ตัวเราเองเมื่อบ่นจนติดเป็นนิสัยแล้ว
ความคิดด้านลบ ก็จะเกาะกินตัวตนของเราเองด้วย หลายคนใช้การบ่น
เพื่อต้องการให้สิ่งรอบกายเป็นไปตามที่คาดหวัง อย่ าลืมว่ามีอีกหลายวิธี
ที่จะทำให้คนรอบข้างหรือสิ่งรอบกายเป็นไปตามที่เราคาดหวัง เช่น
การชมเชยก่อนแล้วค่อยให้คำแนะนำ การให้รางวัลเมื่อสามารถ
ทำตามกติกาที่กำหนดได้ เป็นต้น
บทที่ 5 “ชื่นชมสิ่งรอบตัว”
การรู้จักพูดชื่นชม การรู้จักพูดขอบคุณสิ่งต่างๆรอบตัว สามารถทำให้
จิตใจของเราเป็นบวกได้มากขึ้น ควรหาโอกาสชื่นชมผู้อื่น
(ตามความเป็นจริงและกาลเทศะ) ทุกครั้งที่มีโอกาส การชื่นชม
ไม่ใช่แค่ทำให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่สามารถทำให้เราเห็นความสำคัญ
ของตัวเราเองได้ด้วย
บทที่ 6 “อยู่ใกล้ๆคนที่คิดบวก”
การได้พูดคุยกับคนที่มีความคิดเป็นบวก จะช่วยให้ตัวเราเอง
ค่อยซึมซับวิธีการคิดด้านบวกไปด้วย หากเราได้พบคนที่มี
ความคิดดีๆอย่ าลืมที่จะผูกมิตรกับคนเหล่านั้น
บทที่ 7 “อยู่ห่างๆคนที่ชอบคิดลบ”
ความคิดด้านลบเป็นสิ่งที่แพร่กระจายสู่กันได้ เมื่อเราอยู่ใกล้คนที่
คิดลบ ตัวเราเองก็จะค่อยๆซึมซับเอาความคิด ที่ไม่ดีเหล่านั้นด้วยทีละนิดๆ
บทที่ 8 “อ่ านธรรมะ คำคม ข้อคิด”
ข้อคิดดีๆ สามารถเป็นตัวจุดประกายความคิดด้านบวกให้เราได้
การเขียนบันทึกคำคมที่เราอ่ านแล้วประทับใจ หรือแปะมัน
วันในที่ๆอ่ านได้ง่ายๆ มันจะเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจเมื่อ
เวลาที่เรามีความคิดที่ไม่ดีได้
บทที่ 9 “คิดถึงคนที่ลำบากมากกว่าเรา”
มีชีวิตของคนอีกหลายคนที่ทุกข์ย ากมากกว่าเรา แต่พวกเขาก็ยัง
ฝ่า ฟั น และสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนสามารถประสบความสำเร็จได้
การได้อ่ านตัวอย่างชีวิตของบุคคลเหล่านี้ สามารถสร้างแรงบันดาลใจและ
กลายเป็นความคิดด้านบวกได้
บทที่ 10 “ช่วยเหลือผู้อื่นให้เป็นสุข”
การช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆไปจนถึงการช่วยชีวิต
นอกจากได้ทำบุญแล้ว ยังสามารถสร้างความรู้สึกและความคิด
ในด้านบวกต่อตัวเราเองได้ การให้อภัยก็รวมอยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
บทที่ 11 “หยุดความคิดลบ” โดยหันเหไปหากิจก ร ร มต่างๆ
ฝึกรู้เท่าทันความคิดของตัวเราเอง เมื่อมีความคิดที่เป็นลบ ให้เราเตือน
ตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นให้หันเหความคิดไปสู่สิ่งอื่น หรือ
ให้ถามตัวเองว่าความคิดลบนั้นๆ เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน มีอะไรที่
สามารถมาคัดค้านความคิดลบนั้นได้บ้าง แล้วเราจะเลือกที่จะเชื่อใน
ความคิดลบนั้นอยู่หรือไม่ ถ้ายังเลือกที่จะเชื่อความคิดลบนั้นเราจะต้อง
แลกกบอะไรบ้าง และถ้าเลือกที่จะหยุดความคิดลบนั้นชีวิตเราจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง
บทที่ 12 ลดคำถามที่ขึ้นต้นว่า “ทำไม”
“ทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้”
“ทำไมถึงต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับฉัน”
เชื่อว่าบ่อยครั้งที่คำว่า “ทำไม” มักผุดขึ้นมาในความคิดของเราทุกคน
เรื่องบางเรื่อง ยิ่งถามก็ยิ่งไม่มีคำตอบ ยิ่งฟุ้งซ่านก็ยิ่งวกวน ทางที่ดี คือ
ให้ลองหยุดตั้งคำถามเหล่านี้ แล้วลองถามกับตัวเองด้วยคำถามแนวใหม่ว่า
“แล้วทำไมสิ่งต่างๆจะต้องเป็นแบบที่เราต้องการด้วย” ก็อาจทำให้เรา
เข้าใจความต้องการของตัวเอง เกิดความผ่ อ นคลาย และ
สามารถมองชีวิตในมุมบวกได้มากยิ่งขึ้น
ขอบคุณที่มา F a c e b o o k คลินิกสุ ข ภาพ จิตนายแพทย์เจษฎา