Home ข้อคิดชีวิต 15 วิธีสอนตน “ให้เป็นคนใจเย็น” วิถีของผู้หญิงฉลาด

15 วิธีสอนตน “ให้เป็นคนใจเย็น” วิถีของผู้หญิงฉลาด

6 second read
0
0
221

1) ตื่นอย่างมีสติ

แทนที่จะตื่นมาแล้วเช็คข่าว ส า ร จากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งแรกของวัน

ให้เวลาตัวเองซัก 5-10 นาที นั่งสมาธินิ่งๆ ก่อนจะรับข่าว ส า ร อื่นๆ

เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไปอย่างมั่นคงในอารมณ์

2) กินอย่างมีสติ

บางครั้งเราก็ทานไปด้วย คุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วย

ดูจอทีวี จอมือถือไปด้วย แล้วครั้งสุดท้ายที่ทานอา ห ารทีละคำ

รับรสชาติ แล้วขอบคุณอา ห ารในมื้อนั้น คือเมื่อไหร่กันหรือ ?

3) เดินอย่างมีสติ

เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณร่ างก าย

ที่ยังมีกำลังมากพอให้สามารถเดินได้ ขอบคุณถนนหนทางที่สะดวกสบาย

มากพอจนเดินก้าวไปได้ และเดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่า

“อย ากสร้างแต่รอยย่ำอันงดงามให้กับโลกใบนี้”

4) ทำงานอย่างมีสติ

ท่ามกลางมรสุมงาน และการติดต่อผู้คนมากมายตลอดวัน เราก็สามารถ

ฝึกสติรู้เนื้ อรู้ตัวได้ง่ายๆ เพียงหลับตาลง หายใจเข้าและออกลึกๆ

สัก 5 รอบลมหายใจ โดยให้สติตามลมหายใจโดยไม่คิดเรื่องอื่น

แล้วค่อยกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าใหม่อีกครั้

5) สนทนาอย่างมีสติ

ฟังอย่างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็น

เหมือนภาชนะว่างเปล่า ที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้า ขณะที่เมื่อพูด

ก็ตระหนักถึงความงดงามของความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคู่สนทนา

สื่อ ส า ร ด้วยความรัก ด้วยความหวังดี ด้วยใจที่อย ากจะสร้างสรรค์

ความหมายดีๆ ระหว่างกัน

6) นับหนึ่งให้ถึงสิบ

เริ่มจากวิธีพื้นฐานอย่างนับเลขในใจ เวลาที่เราโกรธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ

หรือจะนับถึงร้อยถึงพันก็คงไม่มีใครว่า เพราะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิ

และยังได้มีเวลาไตร่ตรองคิดถึงสิ่งที่ผู้อื่นทำกับเรา และสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำด้วย

7) ปล่อยวาง ไม่ยึดติด

ปัญหาที่เกิดขึ้นนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคนเรามีอัตตามากเกินไป

หากเราลองเปลี่ยนความคิด ไม่ยึดติดกับตัวตน แล้วลองคิดว่าสุดท้ายวันหนึ่ง

เราก็ต้องแตกดับ และสลายไป วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป เพราะฉะนั้น

ถ้าเรายอมรับกับวัฏจักรแห่งการเกิด-ดับนี้แล้ว ไม่ว่าเรื่องใดๆ

ก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

8) เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

อย่ าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ เพราะปกติแล้ว คำว่า “ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา”

นั้นเขาใช้เปรียบเปรย คนที่ฟังอะไรแล้วไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ

ไม่รับความคิดใหม่ๆ เข้ามา แต่ตอนนี้ผมกำลังหมายถึง

ถ้าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว การฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

นั้นนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ใครกล่าวมา

9) คิดมากไปหรือเปล่า

อาการคิดมากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโ ร คเครีย ด ได้ ยิ่งอากาศร้อนๆ

ยิ่งเหตุการณ์อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนรน เมื่อเกิดเรื่อง

ก็จะยิ่งเก็บมาคิด จนไม่เป็นอันกินอันนอน ลองเปลี่ยนจากความคิดเรื่องแ ย่ ๆ

เปลี่ยนเป็นคิดเรื่องดีๆ บ้างสิครับ เพราะความคิดนั้นเป็นตัวกำหนด

วิถีชีวิตของเรา ไม่เชื่อลองทำดู คิดดี ทำดี เท่านี้พอ

10) ฝึกสมาธิ

การฝึกสมาธิให้ใจสงบนั้นมีหลายรูปแบบ จะนั่งสมาธิหรือเดินสมาธิก็ได้

อย่างที่ผมเคยเขียนในเล่มก่อนๆ ว่าเมื่อมีสมาธิก็มีสติ เมื่อมีสติ

ก็เกิดปัญญา เวลาเกิดปัญหาก็จะมีทางแก้ไข

11) รู้เขารู้เรา

บางครั้งแค่เราลองมองใส่ใจนิสัยของคนรอบข้างบ้าง ก็สามารถที่จะ

ทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างไม่ย ากเย็น แต่เราจะต้องรู้จัก

ระงับสติอารมณ์ของเราด้วย เพราะเมื่อเราทราบแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้

หากเรารับนิสัยเขาไม่ได้ ก็ให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราวกัน

12) ขอโทษ

หากเราทำผิด การใช้คำว่าขอโทษนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด

ไม่ใช่เรื่องย ากเลย ถ้าเราจะต้องเอ่ยคำขอโทษ เพราะคำๆ นี้

ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเรา ตกต่ำลงหากแต่เป็นการรู้จักยอมรับ

ในสิ่งที่ตนเองผิดต่างหาก อีกทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ที่เล วร้ า ย

คลี่คลายลงได้อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรใช้คำขอโทษอย่างพร่ำเพรื่อ

เพราะจะทำให้ติดเป็นนิสัยที่ไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ระมัดระวัง

13) ยิ้มแห่งสย าม

รอยยิ้มสร้างโลกนี้ให้สดใสได้ เหมือนดังคำที่บอกว่า “ถ้าคุณยิ้ม โลกก็จะยิ้มให้คุณ”

เพียงแค่คุณไปไหนแล้วมีแต่รอยยิ้มให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย

14) หายใจเข้า-ออกลึกๆ

การหายใจเข้าออกลึกๆ นานๆ จะทำให้เราได้มีสติยั้งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

และทำให้ร่ างก ายเราได้รับการผ่ อ นคลายจากลมหายใจที่รับเข้าและส่งออก

ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปในช่วงเวลาที่มีอารมณ์โกรธ ลองหายใจลึกๆ

เข้า ออก อย่างช้าๆ จะช่วยให้สถานการณ์รอบข้างดีขึ้น

15) ไม่หนีแต่ไม่ปะทะ

หากเราไม่สามารถจะทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ แต่จะเก็บเอาไว้

ก็กลัวจะกลายเป็นคนเก็บกดจะเดินหนีก็จะกลายเป็นคนไม่ยอมรับความจริง

หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คงต้องใช้สติที่รอบคอบตัดสินใจในการแก้ปัญหา

รับฟังสิ่งที่ผู้อื่นว่ามา แล้วก็นำไปปรับปรุงในส่วนที่ไม่ดี หากแต่เป็นสิ่งที่เขาพูดพร่ำเพรื่อ

ก็ไม่ต้องกังวลให้เสียเวลา เลิกคิดไปเลย ไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำด้วย

เพราะการทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลดีอะไรขึ้นมาเลย

ขอบคุณ t a i b a n n

Load More Related Articles
Load More By Stay
Load More In ข้อคิดชีวิต

Check Also

นิสัย 9 ข้อไม่ควรมี ถ้าจะเป็นเถ้าแก่เงินล้าน

การจะทําธุรกิจซักอย่างหนึ่งให้ประสบความสําเร็จให้ได้นั้นคุณต้องวางแผนการอย่างรัดกุม ยิ่งถ้…