หลายคนบอกว่าคนที่จะเป็นเศรษฐี ต้องมีพื้นฐานที่ดีมาก่อนตั้งแต่แรก เช่น ที่บ้านมีฐานะอยู่แล้ว หรือมีกิจการส่วนตัวที่สามารถทำให้เขาเป็นคนรวยได้ นั่นก็อาจจะถูก
แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะใครๆ ก็สามารถเป็นเศรษฐีได้ แม้ไม่ได้เป็นคนรวยมาก่อนแต่คุณสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ หากแนวทางที่ถูกต้อง คุณก็จะกลายเป็น
เศรษฐีได้ไม่ยากอย่างแน่นอน วันนี้จะมาชี้ชัดว่า หากคุณจะกลายเป็นเศรษฐีในวันข้างหน้า คุณจะต้องสัญญาณบ่งบอกไว้อย่างไรบ้าง เพื่อคุณจะได้นำไปปรับปรุง แก้ไข
รวมถึงพัฒนาตัวเองให้เข้าใกล้สัญญาณเหล่านั้น เพื่อจะได้เป็นเศรษฐีบ้าง
1.คุณไม่ได้ยึดติดอยู่แต่กับอดีต
การพูดเกี่ยวกับวันเก่าๆ ที่ผ่านมา จะไม่ทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีได้เลย ยิ่งจะทำให้คุณหมดกำลังใจ ไม่เดินหน้าไปไหนได้ วันๆ นึกถึงแต่ความล้มเหลวของตัวเองดังนั้น
เศรษฐีส่วนใหญ่จะคิดว่าข้างหน้าจะทำอย่างไร ที่จะดีกว่าวันนี้ เพื่อปลุก พ ลั ง ของตัวเองให้ลุกขึ้น กล้าที่จะเผชิญและสร้างโอกาสที่ดีกว่าในปัจจุบัน เช่น กรณีของ
คุณศิริวัฒน์ แซนด์วิช เป็นต้น
2.คุณชอบติดตาม ข่ า ว ส า ร เหตุการณ์ปัจจุบัน
คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการติดตาม ข่ า ว ส า ร เหตุการณ์ปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น นัก ล ง ทุ น เก่งๆ รายงานว่า อ่ า น สิ่งพิมพ์ เพื่อ
ให้พวกเขาสามารถตัดสินใจ ล ง ทุ น ได้มากขึ้น โดยพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก
3.คุณชอบปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
คนรวยจำนวนมากเริ่มต้นจากการเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยนิสัยรักการ อ่ า น มีความกระตือรือร้นเรียนรู้ และพัฒนาตนเพิ่มเติมไม่หยุดนิ่ง มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพ
ในตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัดโดยเฉพาะความรู้ทางด้านการเงินสนใจเป็นพิเศษ เพราะเห็นความสำคัญของความรู้ทางด้านการเงิน
พ ย า ย า ม บริหารเงินที่ได้มาทุกเหรียญ
อย่างสุดความสามารถ เพราะรู้ว่าความมั่นคงทางการเงิน คือ จุดหมายนำพาไปสู่ความร่ำรวยได้ มีแนวทางมากมายที่เป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จให้เรียนรู้ควบคู่กับการฝึกฝน
ทักษะการตัดสินใจทางการเงินที่ดี ช่วยให้การออมและการ ล ง ทุ น มีทิศทางชัดเจน สามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
4.คุณยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลง หรือปรับตัวเป็นเรื่องยากแต่กระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตมากขึ้นทุกวัน
คนที่ปรับตัวตามโลกได้เร็ว ย่อมคว้าโอกาสได้มากกว่าคนอื่นเกิดความพอใจที่ได้พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันให้ตนเอง
อยู่รอดได้ และได้เปรียบกว่าคู่แข่ง หากลยุทธ์ได้ถูกช่องทางก็มีโอกาสสร้างธุรกิจต่อยอดได้มากมาย การเป็นเศรษฐีเงินล้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
5.คุณใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ลักษณะทั่วไปของเศรษฐีที่เหมือนกัน ก็คือ พวกเขาจะใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้รถที่สามารถใช้ประโยชน์ให้กับพวกเขาได้ก็พอ อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่หรูหรา
กินข้าวในบ้านมากกว่านอกบ้านไม่ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับสิ่งของที่ไม่จำเป็น ที่สำคัญคนรวยจะรู้จักนำเงินอีกส่วนจะ 10-20% ของรายได้ทั้งหมด ไป ล ง ทุ น ต่อยอด
เพื่อให้ได้เงินเข้ามาอีกทาง
6.คุณชอบที่จะคิดการใหญ่ ไม่คิดเล็ก
คนที่มีโอกาสจะเป็นคนรวยส่วนใหญ่ มักไม่คิดถึงแค่วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ แต่มักจะคิดถึงวันต่อๆ ไปเสมอ เขามักจะคิดว่าในวันต่อ ๆ ไปเขาจะวางแผนการใช้เงินของเขา
อย่างไรมองหาเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเสมอ ทำอย่างไรเงินจึงจะงอกเงยขึ้นมามากกว่าเดิม คนรวยมักจะวางเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเสมอ แล้วมุ่งไปสู่เป้าหมายนั้นให้ได้
7.คุณเป็นคนสู้ไม่ถอย ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ
หลายคนคิดบวก แต่ขาดความอึด ในการต่อสู้ปัญหา หรือ อุปสรรค ก็อาจจะ U-Turn เลี้ยวรถกลับได้ หากเจอปัญหาเหล่ามหาเศรษฐีส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่ม
บุคคลที่ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง แต่ละครั้ง เ จ็ บ ป ว ด แสน ส า หั ส อย่างไร ก็ลุกมาต่อสู้อย่างไม่ย่นย่อ ท้อแท้ หรือ คิดจะถอยหลังกลับแต่อย่างไร คิดแต่วันข้างหน้าต้องดีกว่าวันนี้ และ
ลงมือทำให้เร็วที่สุดนั่นคือ สัญญาณการเป็นเศรษฐี ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีการวางแผนไว้อย่างไรบ้างอีกทั้งทัศนคติก็มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วย
ผลักดันให้มีความก้าวหน้าได้เร็วขึ้น และก้าวสู่ความเป็นเศรษฐีได้อย่างขึ้น
8.คุณมีความคิดอยากได้มากเกินจริง
มหาเศรษฐีหลายๆ คน จะมี่ความคิดที่ยิ่งใหญ่ หรือบางครั้งมักจะมีความคิดที่เกินความเป็นจริงอยู่เสมอ เช่น ทำธุรกิจเดียวไม่พออยาก ข ย า ย ธุรกิจไปเรื่อยๆ หรือ ล ง ทุ น
ในหุ้นตัวเดียวไม่พออยากจะลงในธุรกิจที่หลากหลาย หรือวันนี้ทำเงินได้ 1 ล้านดอลลาร์ ไม่พอใจ คิดหาหนทางและช่องทางที่จะทำเงินให้ได้ 10 ล้านดอลลาร์
9.คุณมีความรู้สึกอยากเริ่มต้นทำในทันที
คนที่เป็นเศรษฐีส่วนใหญ่ไม่ต้องการรอเวลาที่เหมาะสม ในการ ล ง ทุ น หรือเปิดตัวธุรกิจของพวกเขา หลายคนตระหนักดีว่า ไม่มีเวลาไหนที่ดีไปกว่าการเริ่มต้นทำเงินได้ทันที
เพราะการนั่งรอเป็นแนวทางกำจัดความฝันของคุณ หรือคนอื่นเอาไปกินก่อน
10.คุณเป็นคนที่น่าสนใจของคนอื่น
มันอาจจะไม่จริงเสมอไปในความคิดของหลายๆ คน เพราะคนที่หน้าตาไม่ดี ภาพลักษณ์ แ ย่ อาจจะเป็นคนรวยก็ได้ “คนที่น่าดึงดูด คนที่มีเสน่ห์ จะสามารถสร้างรายได้
เฉลี่ย 3% ถึง 4 เปอร์เซ็นต์มากกว่าคนที่มีรูปลักษณ์ต่ำกว่า”อย่างกรณีในเมืองไทยคนหน้าตาไม่ค่อยดี ธรรมดาๆ แต่เป็นคนน่าสนใจ ดึงดูดผู้คนได้ดี พออัดคลิปลง ยู ทู ป
สามารถทำเงินแสน เงินล้านได้ทันที
11.คุณเริ่มต้นหาเงินตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
หนึ่งในคุณลักษณะทั่วไปที่เหมือนกันของคนรวย ก็คือ พวกเขาเริ่มต้นหารายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ยกตัวอย่างมหาเศรษฐีระดับโลกที่ทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี “ว อ ร์ เ ร น บั ฟ เ ฟ ต ต์”
เริ่มหารายได้ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 6 ขวบ ด้วยการขายหมากฝรั่งให้กับเพื่อนบ้านของเขาหรือแม้แต่ Mark Cuban เมื่อช่วงอายุ 12 ขวบอยากมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
เขาได้ขายถุงขยะเพื่อเก็บเงิน ซื้ อ รองเท้าคู่โปรด ชีวิตช่วงมัธยมเขามีเงินสะสมจากการทำงานพิเศษ สิ่งเหล่านี้คือจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการนั่นเอง
12.คุณมุ่งเน้นสร้างรายได้มากกว่าการออม
คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนรวยหรือมหาเศรษฐีหลายคน จะร่ำรวยได้ด้วยการประหยัด อดออม ไม่ใช้จ่ายเงิน แต่มหาเศรษฐีส่วนใหญ่จะมีวิธีที่ดีกว่าการออมโดยการใช้จ่ายอย่างฉลาด
รู้ว่านำเงินไป ล ง ทุ น ตรงนั้นจะได้เงินมาอย่างไรเรียกได้ว่ารู้วิธีการนำเงินไปยอดเพื่อสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น นำเงินไป ล ง ทุ น ในหุ้น อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ
13.คุณมีเพื่อนหรือรู้จักคุ้นเคยกับเศรษฐี
เศรษฐีส่วนใหญ่จะเพื่อนเป็นเศรษฐีด้วยกัน อาจเรียกว่าอาจคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน หรือทำงานด้วยกัน หรือถ้าคุณรู้จักกับคนรวย และคุ้นเคยไปมาหาสู่คนรวยเป็นประจำ หรือ
ชื่นชอบการทำงานของพวกเขาอาจจะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจ และขอรับคำปรึกษาจากคนรวยเหล่านั้นก็ได้ พวกเขาอาจจะชี้ช่องทางให้คุณไปสู่ทางรวยได้
14.คุณชอบกำหนดเป้าหมาย ร ะ ย ะ ย า ว
คนที่จะรวยจะชอบที่จะกำหนดเป้าหมายชีวิต รวมถึงธุรกิจของพวกเขาใน ร ะ ย ะ ย า ว ไม่ใช่กำหนดเป้าหมายแค่ในแต่ละวันเท่านั้น ไม่ใช่คิดคืนนี้แล้วทำในวันพรุ่งนี้แต่เศรษฐี
จะวางเป้าหมายเป็นเดือน เป็นปี เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะได้เงินมาจากไหนที่จะนำไป ล ง ทุ น หรือจะมีรายได้เท่าไหร่หลังจาก ล ง ทุ น ในสิ่งนั้นไปแล้ว
15.คุณรู้จักเพิ่มทักษะ ความรู้ ให้ตัวเองสม่ำเสมอ
แม้ว่าคุณจะมีทักษะ ความรู้อยู่แล้ว แต่การออกไปข้างนอก ไปพบปะผู้คน หรือไปร่วมงานสัมมนาต่างๆ ที่องค์อื่นๆ จัดขึ้น จะช่วยให้คุณเปิดโลกหรือมุมมองได้กว้างขึ้นกว่าเดิม
เพราะอาจจะได้เจอพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆ ได้เจอข้อคิดใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนชีวิตหรือธุรกิจของคุณให้ดีขึ้น หรือก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขอขอบคุณ t h a i s m e s c e n t e r