1. พฤติก ร ร มบางอย่างเปลี่ยนไปจากเดิม
ลองสังเกตว่าช่วงนี้เขามีพฤติก ร ร มแปลกไปบ้างไหม เช่น เริ่มลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ไปฟิตเนส แต่งตัวให้ดูดีขึ้น หรือหาครีมบำรุง น้ำหอมมาใช้ทั้งที่ปกติแค่อาบน้ำ
ถูสบู่ทุกวันก็หรูแล้ว พอถามก็บอกว่า ” ไม่มีอะไรนี่ ผมแค่อยากดูดีขึ้น ” ถ้าเขาอยากดูดีขึ้นปุบปับยังพอสังเกตได้ง่าย แต่บางคนก็ค่อยๆ ดูแลตัวเองเป็นสเต็ป ทำให้
ดูไม่ออกว่าแค่อยากหล่อขึ้นเฉยๆ หรือเพราะมีคนอื่นในใจ ต้องดูต่อไปย าวๆ ค่ะ
2. ไปหาโดยไม่บอกล่วงหน้า
ถ้าเธอไปหาเขาที่บ้าน / ที่ทำงานบ่อยๆ ลองไปแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้าบ้าง! ถ้าเป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันแล้ว ลองกลับบ้านเร็วกว่าปกติว่าจะได้เห็น ‘ อะไรดีๆ ‘ หรือเปล่า
แต่ต้องทำให้เนียน อย่าให้รู้ว่าเธอตามสืบเขาอยู่ พย าย ามหาเหตุผลนั่นนี่เพื่อให้ ‘ แวบ ‘ ไปหาโดยไม่เสียมารย าท เช่น แวะเอาขนมมาฝาก เป็นทางผ่านพอดี ต้องมาคุย
กับคนที่ทำงานของเขาพอดี เป็นต้นถ้าเขาไม่ยินดีกับการเห็นหน้าเธอเลย แต่กลับเสียงดังเหมือนโกรธ ( ” ทำไมมาแล้วไม่บอกก่อน! นี่ที่ทำงานนะไม่ใช่สวนสนุก ” )
หรือตื่นกลัวอะไรบางอย่าง เป็นไปได้ว่าเขากำลังแอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ค่ะ
3. ตรวจสอบสิ่งของใน ‘ ถังขยะ ‘
‘ ถังขยะ ‘ เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีในการสืบหาของที่น่าสงสัย เพราะคนส่วนใหญ่มักทำล า ยหลักฐานด้วยการทิ้ง ‘ หลักฐาน ‘ ลงถังโดยไม่คิดว่าใครจะมาคุ้ยต่อไม่ว่าจะเป็น
ถังขยะจริงๆ หรือ ‘ Recycle Bin ‘ ในคอมพิวเตอร์ก็อาจมีคำใบ้ซ่อนอยู่ พย าย ามเช็คให้บ่อยที่สุด ( เผื่อเขาจะยังไม่ทันลบทิ้ง ) เธออาจจะเจอไฟล์รูปถ่ายแปลกๆ
กระดาษโน้ตที่มีข้อความนัดแนะกับใครบางคน หรือแม้แต่แก้วน้ำร้านที่เธอไม่คิดว่าเขาจะไปแน่ๆ ถ้าไม่ได้ไปกับผู้หญิง!
4. แอบเช็ค ‘ โทรศัพท์มือถือ ‘ ของเขา
ช่วงนี้แฟนหนุ่มข้างกายเริ่มมีอาการ ‘ ติดหนึบ ‘ โทรศัพท์มือถือบ้างหรือเปล่า ไปไหนต้องถือไว้ในมือตลอดเวลาเหมือนเป็นปัจจัยที่ 5 บางครั้งยังเอาเข้าห้องน้ำไปกดต่อ
จะติดอะไรขนาดนั้นพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง ถ้าเขาไม่ใช่หนุ่มสายไอทีที่ต้องติดต่องานออนไลน์ตลอดเวลา หรือเป็นคนติดมือถือมาตั้งแต่แรก คือเพิ่งมาติดช่วงนี้ มีโอกาส
ที่เขาอาจจะ ‘ ติด ‘ คนในมือถือมากกว่ามือถือค่ะหาทางเช็คมือถือของเขาให้ได้เมื่อมีโอกาส! เช่น ตอนเขาชาร์จมือถือแล้วเดินไปทำธุระ การกดเช็คคร่าวๆ จะทำให้เธอ
พอจับสังเกตได้ ยิ่งถ้าเจอหน้าจอที่ต้องปลดล็อคทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยตั้ง หรือประวัติการโทรออก/รับสายเบอร์แปลกซ้ำๆ ติดต่อกันทุกวัน มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน
5. แกล้งเจ๊าะแจ๊ะ / อ้อน / แตะเนื้ อต้องตัว
ปกติคู่รักแรกคบมักจะจู๋จี๋ เจ๊าะแจ๊ะ แตะเนื้ อต้องตัวกันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเธอสงสัยว่าเขาอาจมีกิ๊ก ลองแกล้งออดอ้อนเหมือนที่เคยทำ เช่น ลูบต้นแขน โผกอด หยิกแก้ม
ลูบผมฝ่ายตรงข้าม ถ้าเขาปัดออกแล้วทำท่าทางรำคาญ ( เผลอๆ ผลักเธอออกจนแทบกระเด็นไปติดผนัง ) มีสองความนัยคือ เขาเหนื่อยจากงานจริงๆ หรือเขาไม่พิศวาสใดๆ ในตัวเธอแล้ว
6. ตามไปดูว่าเขาทำอะไร ‘ หลังเพิ่งทะเลาะกัน ‘
ส่วนใหญ่ผู้ชายที่แอบมีกิ๊กจะหาเรื่องทะเลาะกับแฟนโดยไม่รู้ตัว ( หรืออาจรู้ตัวแต่อยากหาเรื่องก็ไม่ทราบ ) หลังจากตะโกนด่าทอสาดเสียเทเสีย ก่อนจะจบลงที่การกระแทก
ประตูปิดดังปัง แล้วเดินหนีไป บางทีอาจเป็นข้อแก้ตัวที่ทำให้เขาหนีจากเธอไปหากิ๊กก็เป็นได้ถ้าเขาทำท่าทีเดินฉับๆ ออกไปหลังทะเลาะ ลองแอบตามไปดูว่าเขาเดินไป
โทรศัพท์หาใคร หรือลอบยิ้มออกมาเพราะแผนการสำเร็จหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องจัดให้หนัก ถ้าเขาจับได้ว่าเธอเดินตาม ให้ทำหน้าสำนึกผิดแล้วบอกว่า ‘ แค่อยากมาขอโทษ ‘ นะจ๊ะสาวๆ
7. เขาเปลี่ยนเวลาเข้านอน
ถ้าแฟนหนุ่มของเธอมีกิ๊ก เวลาเข้านอนของเขาจะเริ่มรวน เช่น นอนดึกขึ้นโดยแก้ตัวว่างานเยอะเลยต้องเคลียร์ให้เสร็จ ( ที่จริงเคลียร์อะไรก็ไม่ทราบ ) หรือแต่งตัวออกจากบ้าน
ไปตอนดึกๆ รอให้เธอหลับแล้วเขาก็เผ่น!เธอลองแกล้งเข้านอน ข่มตาทำเป็นหลับ เมื่อเขาแน่ใจว่าเธอนอนแล้วก็จะเผยตัวตนเต็มที่ ค่อยๆ ย่องลงมาจากเตียงแล้วใช้สายตา
ตามส่องว่าเขาทำอะไรบ้าง เขาแอบขับรถไปเจอใครหรือเปล่า ตอนเช้าเขากลับมานอนข้างๆ เธอหรือหายไปทั้งคืน!ในทางกลับกัน บางคนอาจนอนแต่หัวค่ำเพื่อตื่นเช้ามา
นั่งคุยโทรศัพท์ ‘ กับลูกค้า ‘ แทน ต้องสังเกตให้รอบด้านเข้าไว้ค่ะ
8. เขาอยากมี ‘ พื้นที่ส่วนตัว ‘ มากขึ้นเรื่อยๆ
ความสัมพันธ์ย่อมต้องการ ‘ พื้นที่ส่วนตัว ‘ ของแต่ละฝ่ายซึ่งไม่ผิด แต่ถ้าเขาอยากได้อาณาเขตส่วนตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ และตลอดเวลาโดยที่เธอไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้าไปเลย
เริ่มจะไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ!จากที่เคยถามคำถามธรรมดาๆ เพราะเป็นห่วง เช่น วันนี้กินอะไร ถึงบ้านหรือยัง เสียงแหบๆ ไม่สบายหรือเปล่า แต่กลับได้คำตอบเป็นน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า
‘ เรื่องของผม! ไม่ต้องมายุ่ง ‘ เป็นสัญญาณเตือนรัวๆ ว่าเขาซ่อนอะไรไว้แน่นอน
9. เขาตกใจ / สะดุ้งเมื่อเธอเข้าใกล้
ถ้าแฟนหนุ่มของเธอเอาแต่ง่วนกับการจิ้มหน้าจอมือถือ พิมพ์อะไรสักอย่างหน้าจอคอม ไม่คิดจะเงยหน้ามามองกันบ้างเลยลองยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หรือเดินผ่านเขาโดย
ไม่ให้เขารู้ตัวดูสิ!ถ้าเขาสะดุ้งโหยงหรือเหงื่อแตกขึ้นมาทันควัน แปลว่าเขากำลังทำอะไรสักอย่างทีไม่อยากให้เธอรู้ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ค่ะ
10. เขางานยุ่ง, เที่ยวกับเพื่อนบ่อยขึ้น
ร้อยวันพันปีไม่เคยยุ่ง ตอนนี้งานกลับมายุ่งซะงั้น! เขาเริ่มกลับดึกบ่อยๆ โดยอ้างว่าติดงาน หรือไม่ก็อยากไปเฮฮา สังสรรค์กับแก๊งเพื่อน ( เฮฮาจนตารางนัดเต็มทั้งเดือนนี่
เกินไปหน่อยมั้ง ถ้าโสดจะไม่ว่าเลย ) ถ้าเขาไม่คิดจะพาเธอไปรู้จักกลุ่มเพื่อนของเขาเลย หรือตัดเธอออกจากโลก ‘ ทำงาน ‘ ไปเลยโดยสิ้นเชิง แต่พอกลับบ้านมากลับยิ้ม
หัวเราะร่าเริงเหมือนเธอไม่สำคัญอะไรในชีวิตเขาเลย แปลว่าแฟนหนุ่มของเธอเจออะไรที่น่าสนใจกว่าเธอแล้วล่ะ
11. พฤติก ร ร มการคุยโทรศัพท์แปลกไปจากเดิม
จากที่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อหน้าเธอได้ เขาเริ่มแยกตัวออกไปคุยข้างนอกเหมือนมีความลับอะไรบางอย่าง เสียงริงโทนดังทีไรต้องเหงื่อแตก รับสายด้วยโทนเสียงที่เธอ
ไม่คุ้นชิน แล้วลุกออกไปคุยเงียบๆ หรือบางทีเป็นเสียงข้อความเข้า พอเขาอ่ านก็ยิ้มก่อนจะรีบหุบ แล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋าอย่างเดิม น่าสงสัยสุดๆ!การเช็คประวัติ
การโทรออก / รับสายอาจไม่ค่อยชัดเจนนัก เพราะคนที่คิดจะนอกใจจะมีวิธีเมมชื่อกิ๊กที่ไม่ให้จับได้ง่ายๆ เช่น เมมเป็นอักษรย่อ, ชื่อผู้ชายแมนๆ เช่น สมชาย สมเกียรติ เจษฎา หรือ
อาจไม่เมมเลยก็เป็นไปได้ เอาเป็นว่าถ้าเขาโทร-รับสายจากเบอร์ไหนนานๆ ต่อเนื่องกันบ่อยในช่วงนี้ เบอร์นั้นน่าสงสัยสุดแล้วล่ะ
12. เขาเปลี่ยน ‘ พาสเวิร์ด ‘ ใหม่ทั้งหมด
เมื่อก่อนก็ไม่เคยมีความลับต่อกัน ตั้งพาสเวิร์ดอะไรก็แ ช ร์ให้ดูหมด แต่อยู่ดีๆ ก็อยากมีความเป็นส่วนตัว เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ยกเซ็ตซะงั้นพอเธออยากเช็คโซเชียล
ของเขาแต่พบว่าเข้าไม่ได้ เพราะเปลี่ยนรหัสไปแล้ว เธอรีบถามรหัสใหม่แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง หาข้อแก้ตัวที่จะไม่ให้รหัสนั้นกับเธอ บางรายจากที่หันหน้าจอคอมติดกัน
ก็เริ่มยกออกให้ห่างพ้นหูพ้นตาเธอ นั่นแหละสัญญาณที่ต้องระวัง!
13. ห่วงภาพลักษณ์ แต่งตัวให้ดู ‘หล่อเนี้ยบ’ ขึ้น
จากที่ใส่แต่เสื้อยืดย้วยๆ กางเกงยีนส์ซักเดือนละหนกับรองเท้าแตะ ลงพุงจนเหมือนยัดหม อนเข้าไปทั้งใบ -.- เริ่มดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย เข้ายิม ซื้ อเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม
จากร้านมีแบรนด์ขึ้นชื่อ ฉีดน้ำหอมรัวๆ จนบางทีฉุนขึ้นไปถึงหลังคา อยากหล่ออะไรปานนั้น!ถ้าอยู่ดีๆ เขาก็เริ่มห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองขึ้นมาอย่างกระทันหัน โกนหนวด ทาครีม
เซ็ตผมทุกวันทั้งที่ปกติเธอบ่นทุกวันก็ไม่ยอมทำ ต้องระวังไว้ให้ดี เขาจะหล่อไปให้ใครเห็นกันล่ะถ้าไม่ใช่สาวใหม่!
14. แอบแวบหายไปบ่อยๆ
เมื่อก่อนก็อยู่ติดบ้าน แงะออกจากโซฟาเท่าไหร่ก็แงะไม่ออก เอาแต่นอนแช่ดูทีวี เล่นเกม แต่ทำไมเดี๋ยวนี้กลับหาเรื่องออกจากบ้านบ่อยๆ ประเด็นคือจะไปคนเดียวด้วยนี่สิ
ข้ออ้างก็มีมากมาย ตั้งแต่ ‘ของในตู้เย็นหมด ผมออกไปซื้ อของให้นะ’ ‘เพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยว ไม่ไปเดี๋ยวมันจะเสียใจ’ ‘เบื่ออ่ะ ขอไปขับรถเล่นหน่อยนะ’ หรืออาจจะแค่
เด้งจากเตียงแล้วคว้ากุญแจรถหมับ หายไปโดยไม่บอกอะไรเลยก็เป็นได้!บางครั้งเขาอาจจะแค่เบื่อจริงๆ แต่ถ้าเธอขอติดรถไปด้วยนานๆ ทีแต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้ง
อยากออกไปคนเดียวตลอดเวลา มันก็น่าสงสัยนะ จริงไหมล่ะ
ขั้นตอนที่สอง : จับให้ได้คาหนังคาเขา
15. ซ่อนกล้อง
ซ่อนกล้องจิ๋ว ( spycam ) ที่สามารถหาซื้ อได้ตามร้านขายเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ในสิ่งที่แฟนหนุ่มหิ้วไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา เช่น กระเป๋าเป้หรือกระเป๋าสะพายข้าง
หาแบบที่มีฟังก์ชั่นบันทึกทั้งภาพ และเสียง เธออาจจะได้ฟังหรือเห็นอะไรดีๆ โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
16. ตั้งโปรไฟล์ปลอมๆ ในเว็บไซต์เพื่อหลอกคุยกับเขา
ถ้าเขาชอบแชท ชอบจิ้มหน้าจอมือถือเพราะติดโซเชียลล่ะก็ ลองสร้างโปรไฟล์ปลอมเพื่อหลอกเข้าไปคุยกับเขาแบบเนียนๆ ดูสิ! เสิร์ชเว็บหาคู่ จับคู่ คุยกับเพื่อนต่างชาติ
ต่างภาษาทั้งหลายแหล่แล้วดูว่าแฟนใช้บริการเว็บเหล่านี้บ้างหรือไม่ หรือถ้าทำไม่เป็น แค่ Facebook ก็พอ หารูปเน็ตไอดอลสวยๆ
( ที่ไม่ต้องดังมาก จะได้เนียนยิ่งขึ้น )
มาใส่เป็นรูปโปรไฟล์แล้วแอดเพื่อนแบบสุ่มมั่วๆ ให้มีจำนวนเพื่อนระดับหนึ่ง แล้วค่อยส่งคำขอเป็นเพื่อนไปให้เขา หลังจากนั้นเมื่อเขากดรับแล้วก็ค่อยๆ คุยอ่อย ทอดสะพานดู
ถ้าเขามีท่าทีสนองกลับก็แยกแยะให้ออกว่า เขาต้องการเพื่อนใหม่หรือแค่อยากได้ ‘ คู่นอน ‘ คำพูดในแชทจะเป็นหลักฐานที่ทำให้เขาดิ้นไม่หลุดแน่นอนค่ะ
17. ใช้โปรแกรมดูดข้อมูลพาสเวิร์ด / ประวัติการเข้าดูเว็บไซต์ของเขา
ถ้าเธออยากสืบเสาะ ค้นหาต้นตอประวัติการดูหน้าเว็บเพจ แฮกเข้าระบบเพื่อดึงรหัสผ่านออกมาให้หมด ลองหาโปรแกรมที่สามารถเจาะข้อมูลเหล่านี้ได้ในอินเตอร์เน็ต
( ถ้าเป็นแบบดีๆ มักต้องเสียเงิน ) โดยเราขอแนะนำโปรแกรมตระกูล Keyloggers ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน เธอสามารถติดตั้งได้โดยไม่มีใครรู้ว่ามันกำลัง
‘ ทำงาน ‘ อยู่ด้วยล่ะนอกจากรหัสผ่านเข้าเว็บไซต์และเว็บเพจแล้ว ยังสามารถดีงข้อมูลตัวอักษรต่างๆ ที่เขาเคยพิมพ์แชทกับคนอื่นอีกด้วย หรือแม้แต่อัดวิดีโอการเคลื่อนไหว
ของหน้าจอช่วงที่เขาใช้คอมพิวเตอร์ก็ยังได้บางแอพพลิเคชั่นต้องไปติดตั้งในมือถือแฟน แล้วเราจะได้ประวัติการโทรของเขาส่งเข้ามือถือของเราเอง โดยที่เราแค่นั่งเฉยๆ
ไม่ต้องทำอะไรก็มีค่ะ ลองศึกษาดูให้ดีแล้วกัน
18. ใช้เครื่องติดตามเส้นทาง ( GPS )
วิธีสุดท้ายที่เรามักใช้กับมือถือเพื่อติดตามกันสูญหาย หรือหาเส้นทางไปเที่ยวในรถสาธารณะ แต่คราวนี้เราจะใช้จับผิดคน! ถ้าอยากจับให้ได้คาหนังคาเขาก็ต้องใช้แอพ
ติดตามเส้นทางแบบ real time อย่าง GPS ยังไงล่ะหาซื้ อ GPS แบบจิ๋วที่สามารถซ่อนไว้ใต้ที่วางเท้าของรถ หรือบนเพดาน หลังคารถโดยไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจน
เธอจะเห็นทุกก้าวย่างของเขาและบอกเลิกได้ก่อนทีเขาจะมีเวลาอ้าปากพูดว่า ‘ เธอมาที่นี่ได้ยังไง ‘ เสียอีก
แค่ใช้วิธีสังเกตหนุ่มข้างตัวไม่รักดีที่คิดนอกใจทั้ง 14 สัญญาณ และวิธีจับผิดอีก 4 อย่างนี้ เธอก็สามารถรู้ได้ว่าเขาแค่เปลี่ยนไปเพราะเหนื่อย หรือเพราะเขามีคนใหม่ที่ทำให้
ตื่นเต้นเร้าใจกว่า คนรักกันย่อมสังเกตอากัปกิริย าของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปได้อยู่แล้ว แม้จะเล็กน้อยเท่าไหร่ก็ตามทีทั้งนี้ทั้งนั้น ใช่ว่าทุกคนจะทำอย่างนี้เพราะมีกิ๊กไปซะหมด
บางคนก็อาจแค่ ‘ อยากมีโลกส่วนตัวสักพัก ‘ เท่านั้นเอง ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเขามีคนอื่นก็อย่าเพิ่งดราม่า หาเรื่องทะเลาะตบตี เสียน้ำตากันรัวๆ หรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา
มากเกินไป เพราะพวกเธออาจได้เลิกกันจริงๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรในกอไผ่แท้ๆ = =ถ้าเขามีใหม่จริงก็นั่งจับเข่าคุยกันให้เคลียร์ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ( จะคบต่อถ้าเธอยังอยาก
ให้โอกาส หรือจะเลิกให้จบกันไปเลย ) แต่ถ้าเป็นแค่ความเข้าใจผิด ก็อย่าลืมขอโทษเขาด้วยความจริงใจด้วยนะคะ ยังไงก็ขอให้สาวซิสต้าทุกคู่รักกับแฟนต่อไปนานๆ น้า
Cr. 18 Ingenious Ways to Catch a Cheating Partner lovepanky