ภาพจำของ การแต่งงาน ก็คือการเป็นคนที่อีกฝ่าย ฝากชีวิตไว้ด้วยได้ แต่ความจริงไม่มีใคร
ควรฝากชีวิตฝากความสุขของตัวเอง ไว้กับคนอื่น คนทุกคนควรพึ่งพาตัวเองช่วยตัวเองให้ดีที่สุด
ไม่ใช่เอาแต่หวังพึ่งคนอื่น ไปหมดทุกเรื่องแม้แต่คนที่เป็นสามี-ภรรย ากันก็ตามจริงอยู่ความรัก
ทำให้คนสองคนกลาย เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แต่ความรักไม่ใช่ การเอาชีวิตฝากไว้ที่อีกคน
ไม่ใช่การโยนทุกสิ่ง ทุกอย่ างให้อีกคนรับผิดชอบโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำถ้าแบบนั้น
ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการหาใครสักคนมารับผิดชอบ ปัญหาที่มันเกิดขึ้น มากกว่าการไม่ฝาก
ชีวิตไว้ที่ใคร ไม่ได้หมายความว่า พอมีปัญหามีเรื่องเดือ ดร้อน เราต้องจัดการด้วยตัวคนเดียว
หรือพึ่งพาตัวเองเสมอไป ข้อดีของความรักมันอยู่ที่ตรงนี้ ตรงที่เวลาเจอปัญหาเรายังมีอีกคนคอย
อยู่ข้างๆ คอยปรึกษา คอยห่วงใยให้กำลังใจ จับมือกันแน่นๆ แล้วผ่านความย ากลำบากไปด้วยกัน
ดังนั้น มีความรักแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้ที่คนรัก เพราะนี่คือ 6 เหตุผลที่ทำให้รู้ว่าคนเรา
ไม่ควรจะฝากชีวิตไว้ที่ใครทั้งนั้น
1. อัตตา หิ อัตตโน นาโถ
ตนเป็นที่ พึ่งแห่งตนเป็นพุทธพจน์ ที่บอกให้คนเราเพียรพย าย ามทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองให้เชื่อมั่น
ในศักยภาพ ของตัวเองโดยไม่จำเป็น ต้องพึ่งพาคนอื่นในขณะที่ธรรมชาติของคน เวลามีความรักก็มัก
จะอย ากพึ่งพาคนรัก อย ากให้คนรักช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ เป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราพึ่งพาเค้ามากๆ
จนไม่ได้พึ่งพาตัวเองเลย ก็เหมือนกับการฝากทั้งชีวิตและจิ ตใจไว้ที่อีกคน สุดท้ายเราจะลืมว่าวิธีการ
พึ่งพาตัวเองและอยู่ไม่ได้ ถ้าปราศจากอีกคน การมีความรักไม่ได้แปลว่าเราต้องพึ่งพาคนที่เรารักเพราะแม้
กระทั่งคนรักกันก็รับประกั น ไม่ได้ว่าเค้าจะอยู่กับเราไปตลอดการที่ต่างคนต่างพึ่งพาตัวเองให้ได้ก็เป็น
การลดปัญหา ในการใช้ชีวิตไปส่วนหนึ่ง ยังไงสุดท้ายแล้วคนที่พึ่งพาและฝากชีวิตไว้ได้ก็มีแค่ตัวเราเองเท่านั้น
2. เราต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเราเอง
การมีความรัก กลายเป็นภาพจำที่ทำให้รู้ว่าเราจะไม่ต้อง อยู่คนเดียวดังนั้นหลายคนจึงโหยหาความรัก
เพราะไม่อย ากอยู่คนเดียว แต่ความรักกับการ อยู่คนเดียวแทบจะเป็น คนละเรื่องกันเลยเพราะแม้จะมี
ความรัก มีคนรัก แต่คนทุกคน ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว และพึ่งพาตัวเองให้ได้ความรักเป็นเพียง
ส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดและไม่ใช่ทุกอย่ าง ถึงจะไม่มีความรัก แต่เราทุกคนอยู่ได้ใช้ชีวิตได้
โดยไม่มีผลกระทบอะไรทั้งนั้นเพราะฉะนั้น ให้ความรักแค่มาแต่งแต้มสีสันในชีวิตอย่ าถึงกับให้ความรัก
มานำทางชีวิต เพราะสุดท้ายถึงจะมีหรือไม่มีความรักเราก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเรา เพราะไม่มีใคร
รักเรา เท่ากับตัวเราเอง
3. การไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใคร กลับกลายเป็นวิธีที่ทำให้รักยืนย าว
จริงอยู่ว่า ความรักต้องอาศัยทั้งความเข้าใจ ความไว้ใจความซื่อสั ต ย์ต่อกันถึงจะเป็นรักที่ยืนย าว
แต่นอกจากนั้นแล้วการที่คนสองคน รักกันแบบสบายใจ ไม่กดดันไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตของใครแค่
ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็เป็นวิธีหนึ่ง ที่ทำให้รักยืนย าวได้เหมือนกันแม้ความรักต้องอาศัยความรับผิดชอบ
แต่การไม่ต้องรับผิดชอบ ชีวิตของใครไม่ได้หมายความว่าจะรักกันไม่ได้เพราะถ้าต่างคนต่างก็รับผิดชอบ
ชีวิตตัวเองฝากชีวิตไว้กับตัวเอง อย่ างน้อยปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะน้อยลง
4. ทุกคน มีอิสระที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง
การฝากชีวิต ไว้ที่ใครก็เหมือนการเอา ของมีค่าของเราไปฝากไว้ที่เค้า เราจะรู้สึกกังวลตลอดเวลา
ไม่เป็นตัวของตัวเองกังวลว่าเค้า จะไม่เห็นคุณค่าของ สิ่งที่เราฝากไว้กลัวว่าเค้าจะรักษ า ของๆ เราไว้ไม่ได้
เป็นความระแวง ความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้น เสมอเมื่อเอาของรักของหวง ไปฝากไว้ที่คนอื่นไม่มีใครมี
หน้าที่ ต้องมาทำให้เรามีความสุข ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องมารับผิดชอบ ชีวิตของเราคนทุกคนควรต้อง
มีอิสระที่จะคิดที่จะใช้ชีวิต เป็นของตัวเอง รวมทั้งตัวเราเองด้วย ดังนั้นชีวิตของเราความสุขของเรา
เราต้องดูแลมันด้วยตัวเอง ถ้าเราฝากความหวัง ความสุข ความมั่นคงของชีวิตไว้กับใครเราก็ต้องทุกข์
กับความ ไม่แน่นอนของคนๆ นั้น
ขอบคุณที่มา u n d u b z a p p . c o m