ตามทัศนคติของผู้เขียนแล้ว บทบาท ของความเป็น “แม่” ที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการเป็น แม่ที่ดี นั้นไม่ใช่แค่การเลี้ยงดูลูก ด้วยการให้นมป้อนข้าวป้อนน้ำให้ลูก
เติบโตทางด้าน ร่ า ง ก า ย เพียงอย่างเดียวแต่หมายถึงการดูแลให้ลูกเติบโตขึ้น เป็นคนที่มีคุณภาพครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทางด้าน ร่ า ง ก า ย อารมณ์ สังคม
สติปัญญา และจิตใจด้วย ซึ่งลูกจะเป็นเช่นนี้ ได้อย่างสมบูรณ์นั้นก็ต้องมาจากการเลี้ยงดูจาก แม่ที่ดี นั่นเองแม่ที่ดี ควรเป็นอย่างไร
1.มีเวลาให้กับลูกเสมอ
ไม่ว่าลูกจะอยู่ในวัยใด ก็ตาม ต่างก็ อยาก ให้แม่มีเวลาให้เขาอยู่เสมอ ยิ่งตอนที่ลูกยังเล็กอยู่ แม่ยิ่งต้องให้เวลา กับลูกมากที่สุด แม้จะมีภาระหน้าที่การงานมากเพียงใดก็ตาม
ก็ต้องให้เวลาแก่ลูกในการอุ้ม การกอด การพูดคุย ทำกิจก ร ร มด้วยกันเช่น เล่นกับลูก เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน เมื่อลูกโตเป็นวัยรุ่นซึ่งอยู่ในวัย ที่แสวงหาตัวตน
แม่ก็ควรจะปรับตัวให้เป็นเหมือนแหล่ง พักพิงใจให้กับลูก โดยให้เวลาในการพูดคุยเป็นที่ปรึกษาให้กับลูก ๆ อยู่เสมอด้วยความเข้าใจ และอยู่เคียงข้างลูกเสมอ ไม่ว่า ย า ม ที่ลูกสุขหรือทุกข์ก็ตาม
2. มีความพร้อมที่จะเป็นแม่
เรื่องนี้ถือเป็นประเด็น ที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะหนึ่งในปัญหาของสังคมในปัจจุบัน มักมีจุดเริ่มต้นมาจากคนที่ไม่พร้อมจะเป็นแม่ แต่มีลูกขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจที่จะมี
ซึ่งเมื่อให้ กำ เ นิ ด ลูกออกมาก็ไม่ได้เลี้ยงดูและอบรมเอาใจใส่เท่าที่ควรจึงทำให้ลูกเป็นเด็กที่ขาดความรักความอบอุ่น และมักจะมีพฤติก ร ร ม ที่สร้างปัญหาให้สังคม ดังนั้น
การเป็นแม่ที่ดีต้องเริ่มต้นที่การมีความพร้อม ในการที่จะเป็นแม่ก่อนสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นการมีวุฒิภาวะและวัยที่พร้อมต่อการมีลูก มีการวางแผนครอบครัวที่ดี มีรายได้ และ
หลักฐานที่มั่นคงเพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูก ให้ได้กินอิ่ม นอนหลับ ปลอดภัย แข็งแรง และได้รับการศึกษาที่ดีได้
3.อย่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
คำที่กล่าวกันว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” นั้น เป็นเรื่องจริง เพราะลูกจะซึมซับ พฤติก ร ร มของแม่ไว้ ฉะนั้น แม่เป็นอย่างไรลูกก็มักจะเป็นเช่นนั้นนั่นเอง
4.รักและให้อภัย
คนเป็นแม่สามารถแสดงความรัก กับลูกได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสโอบกอด อุ้ม หอม แก้ม ลูบหัว การพูดจาที่อ่อนโยนและให้กำลังใจกับลูก แม่ที่แสดงให้ลูกรู้ว่า
มีความรักให้กับลูกอยู่เสมอนั้น จะทำให้ลูกเป็นคนที่มีความสุข มีความเชื่อมั่นในตนเองและมีพัฒนาการทางสติปัญญา ที่ดีมากกว่าเด็กที่ขาดความรักความอบอุ่นจากแม่
นอกจากนี้ เมื่อลูกทำผิด หรือมีความผิดพลาดในสิ่งใดก็ตาม เช่น ทำข้าวของเสียหายหนีเที่ยว สอบตก ฯลฯ แม่ที่ดีควรเข้าใจ รับฟัง และให้อภัยลูกอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ควรละเลย
ในการตักเตือนหรืออาจมีการลงโทษว่ากล่าวตามสมควร ซึ่งก็อย่าใช้วิธีลงโทษ รุ น แ ร ง ด้วยการ ทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย หรือด่าว่าด้วยถ้อยคำ ห ย า บ ค า ย กับลูกเลย
เพราะนั่นจะเป็นการสร้าง บ า ด แ ผ ล ในใจลูก ให้คิดไปว่าแม่ เ ก ลี ย ด ตนเอง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ลูกกลายเป็นคน ก้ า ว ร้ า ว ดุดันและประชดทำในเรื่อง ร้ า ย ๆ มากยิ่งขึ้นได้
ถ้าตัวแม่เองยังเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับลูกไม่ได้ก็อย่าหวังว่าลูกจะเป็นคนที่ดีได้เลย ยกตัวอย่าง เช่น
– ถ้าแม่เป็นคนที่มีนิสัย ห ย า บ ค า ย ก็อย่าหวังว่าลูกจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อยได้
– ถ้าแม่เป็นคนที่ใจแคบ ตระหนี่ถี่เหนียว ก็อย่าหวังว่าลูกจะเป็นคนที่ใจกว้าง ชอบแจกจ่ายให้ผู้อื่นได้
– ถ้าแม่เป็นคนมีนิสัยปลิ้นปล้อน หลอกลวง ก็อย่าหวังว่าลูกจะเป็นคนที่ซื่อตรง และจริงใจได้
– ถ้าแม่เป็นคน ขี้ โ ก ง มักได้ละโมบ โลภมาก ก็อย่าหวังว่าลูกจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ และรู้จักพอ
สำหรับผู้หญิงทุกคน ที่คิดจะเป็นแม่ หรือวางแผนที่จะเป็นแม่คนนั้น ควรเริ่มต้นในการที่จะเช็กตัวเองดูก่อน ว่าใจพร้อม กายพร้อม ความรับผิดชอบพร้อม ที่จะดูแลชีวิตน้อย ๆ
ที่จะเกิดมาได้อย่างดีหรือไม่ และเมื่อมั่นใจว่าพร้อมแล้ว และได้เป็นแม่คนแล้วก็ควรจะเป็นแม่ที่ดูแล ทะนุถนอม เอาใจใส่และมีเวลาให้กับลูก อย่างเต็มที่ อีกทั้งเป็นแม่ที่
มีความรัก และให้อภัยกับลูกเสมอ ที่สำคัญ จงเป็นแม่ที่ลูก ๆ ภูมิใจ โดยอย่าเป็นแม่ที่เป็นตัวอย่าง เ ล ว ร้ า ย ให้กับลูกเลย
ขอขอบคุณ ผู้ จั ด ก า ร อ อ น ไ ล น์