1. เป้าหมายของชีวิตของเรา คืออะไร
ข้อสุดท้าย อาจจะไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนงาน
แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรจะถามตัวเองอยู่ทุกวัน
นั่นคือ “ชีวิตนี้เราต้องการอะไร” เพราะคนเราทุกคนนั้นใชัเวลาทำงานอย่างน้อย 1 ใน 3 ของวัน
นั่นแปลว่าถ้า 33% ของเราที่ใช้ไปนั้น
ไม่ทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้ มันคงจะเหนื่อยและลำบากมากๆเลย จริงไหมครับ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าตอนนี้เราทุกคนจะทำงานอะไรอยู่ หรือแม้แต่อยากเปลี่ยนงาน
กำลังจะเปลี่ยนงาน หรืออยู่ในระหว่างการเปลี่ยนงาน สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะย้ำก็คือ
อย่าลืมมองหาคุณค่าจากการทำงานในทุกๆวัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างแท้จริงครับ
2. เราชอบ “งานใหม่” มากกว่า “งานเก่า” หรือไม่
คนหลายคนมักจะหางานใหม่เพราะเพลียใจกับงานเก่า เช่น งานหนักเกินไปจนไม่มีเวลา
งานมีปัญหาให้แก้ไขจนเ ค รี ย ดอยู่เสมอ เราจึงพยายามจะหางานใหม่ที่คิดว่าจะ “เบา”
กว่างานเก่า แต่คำถามที่เราลืมถามต่อไปก็คือ ถ้า “งานใหม่” มีปัญหาเหมือนงานเก่า
เรายังคงจะทำมันต่อไปได้หรือไม่ หรือว่าจะเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ กันแน่ล่ะ
เหตุผลข้อนี้ผมเขียนขึ้นด้วยทฤษฏีที่ว่า “ไม่มีงานที่รัก มีแต่งานหนักที่เราทนทำมันไปได้ตลอดชีวิต”
เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เชื่อว่า จะมีงานไหนที่เรารักจริงๆ
แต่ผมเชื่อว่ามันจะมีงานที่เราสามารถรับผิดชอบทำมันต่อไปได้ทั้งๆที่เราจะไม่ชอบมันก็ตาม
โดยเหตุผลของการทำงานนั้นต่อนั้นต้องไม่มีเหตุผลเรื่องเงินเป็นส่วนประกอบ
3.ผลตอบแทนที่ได้นั้น “คุ้มค่า” บ้ างไหม
เช่นเดียวกันกับความชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่เราตอบตัวเองได้คือ “ผลตอบแทน”
จนมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนบอกผมว่า “ถ้าจ้างงานหนักแค่ไหน แต่เงินถึงเราก็ไป” ไชโย…
แต่อย่าลืมพิจารณาเรื่องของ “ความคุ้มค่า” ด้วยนะครับว่า “ผลตอบแทนที่เราได้นั้น”
คือ“มูลค่าที่กิจการยอมจ่าย” บวกด้วย “ค่าเสียโอกาส” เพราะสิ่งที่เรายอมแลกไปเพื่อให้ได้กลับมา
ไม่ใช่มีแค่ต้นทุนเวลาในการทำงานเพียงอย่างเดียว อย่าลืมพิจารณาถึง
โอกาสการเติบโต ความก้าวหน้าในสายอาชีพ และเรื่องอื่นๆที่สำคัญในการใช้ชีวิตด้วยนะครับ
4. เราพร้อมเปิดรับ “สังคมใหม่” หรือยัง
อีกหนึ่งปัญหาก็คือเรื่องของ “ความปลอดภัยในสังคมเดิมๆ”
หรือ Comfort Zone ที่หลายๆคนมักจะให้ก้าวออกมาเพื่อ “เปลี่ยนแปลง” แต่ส่วนตัวแล้ว
ผมกลับมองว่า สิ่งที่เราควรจะเปลี่ยนแปลง คือ “ความคิด” ของตัวเราเองก่อน
เพราะ เราไม่รู้หรอกว่าสังคมใหม่ที่ว่าจะดีหรือแ ย่กว่า
สังคมเดิมที่เราอยู่ จนกว่าเราจะได้ไปลองทำดูครับ
ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าตัวเองเป็นคนปรับตัวยากไม่พร้อมที่จะออกสู่สังคมใหม่
มันก็ไม่ผิดอะไรที่ที่จะตัดสินใจไม่ “ก้าว” ออกจาก Comfort Zone
เพราะถ้าก้าวออกไปแล้วแล้วผิดพลาด
การอยู่เฉยๆในที่ปลอดภัยก็อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องกว่าก็ได้
เพราะคำถามที่ต้องถามจริงๆก็คือ
“เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ง่ายหรือเปล่า” ต่างหาก
5. ความเห็นคนรอบข้าง “จำเป็น” หรือเปล่า
หนึ่งในปัญหาของการตัดสินใจของการเปลี่ยนงาน คือ “ความเห็น” จากคนรอบข้าง
ทั้งเพื่อนที่ทำงานเก่า หรือแม้แต่คนที่ชวนเราไปสมัครงานใหม่ มักจะมาทำให้สับสนใจอยู่บ่อยๆ
ดังนั้นเราควรถามว่า “ความเห็นเหล่านั้น” จำเป็นต่อการตัดสินใจหรือไม่
ลองสมมุติว่า… ถ้าเรากำลังจะยื่นใบลาออกเพื่อไปอยู่ที่ทำงานใหม่ แต่คนรอบข้างคุณบอกว่า
“ไม่อยากให้ไป” หรือ “ไม่ยอมให้ออก” เรายังจะลาออกอยู่หรือไม่?
และถ้าไม่ลาออก อย่าลืมตอบคำถามด้วยนะครับว่า “เพราะอะไร
สิ่งหนึ่งที่คุณควรคิดมากกว่าความเห็นของคนรอบข้าง…
นั่นคือ “เหตุผลที่คุณควรทำงานอยู่ที่นี่” มากกว่าครับ
ที่มา : a o m m o n e y