1.ตีตัวออกห่าง
เป็นเรื่องที่อาจทำได้ยากสักเล็กน้อย แต่ถ้าหากมีโอกาสก็ควรค่อยๆถอยห่าง
ออกมาซะจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ความอึดอัดนั้นก่อตัวและสะสม พร้อมที่จะ ร ะ เ บิ ด
ในวันข้างหน้า อาจก่อให้เกิดปัญหาความ รุ น แ ร ง กันได้ ควรถอยห่างออกมา
อย่างเนียนๆ ไม่แสดงท่าทาง อารมณ์ หรือ ก ริ ย า ให้เขารู้ว่าเรากำลังอึดอัด
ในสิ่งที่เขากำลังทำ
2.คุยกันตรงๆให้เคลียร์
หากปัญหานั้นเดินทางถึงจุดที่ไม่ไหวจะทนแล้ว เปิดใจคุยถึงปัญหากันไปเลยครับ
แต่ต้องไม่ใช้อารมณ์ที่ขุ่นเคืองนะ ยกเหตุผลมาพูดคุยจะดีที่สุด ว่าเราต้องการ
จะเคลียร์ปัญหาเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา ความรู้สึกที่เรามีต่อเพื่อนร่วมงานคนนั้น
อะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ หรือพฤติกรรมไหนที่เพื่อนร่วมงานทำเกินเหตุจนเกินไป
3.ห้ามตอบโต้ด้วยความ รุ น แ ร ง
แม้บางครั้งจะเจอสถานการณ์ที่ เ ล ว ร้ า ย จนทนไม่ไหว แต่อย่าเพิ่ง ร ะ เบิ ด แ ต ก
นะครับ ไม่ควรตอบโต้กลับด้วยความ รุ น แ ร ง หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไป ไม่ว่า
จะทางถ้อยคำ อารมณ์ การแสดงออกก็ตาม ความนิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหว
4.อาจต้องพึ่งตัวช่วยอย่างหัวหน้า
ฟังดูแล้วอาจทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้ฟ้อง แต่ในทางกลับกันแล้วมัน
ไม่ใช่อย่างนั้น หากถึงขั้นที่ต้องนำเรื่องราวของปัญหาไปรายงานต่อหัวหน้า
เท่ากับว่าปัญหาเหล่านั้นยากที่จะแก้ไขและเกิน เ ยี ย ว ย า ซะแล้ว
การขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า ไม่ใช่ให้ไปด่าหรือต่อว่าเพื่อนร่วมงาน
คนนั้นนะครับ แต่ให้ไปกล่าวตักเตือนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและ
สร้างความเดือนร้อนให้แก่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
5.มาก่อนคือเรื่องงาน
แม้จะมีปัญหามากมายถาโถมเข้ามา แต่ที่สำคัญคือเราเข้ามาในบริษัทนี้
เพื่อทำงาน หากปัญหามันยากที่จะแก้ ก็ต้องทำใจยอมรับในสิ่งที่เพื่อน
ร่วมงานนั้นเป็น แน่นอนว่าต่างคนก็มาจากร้อยพ่อพันแม่ พฤติกรรมของ
แต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นหากปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยไป
อย่าไปใส่ใจเลยครับ จะได้ไม่กระทบต่องานที่คุณกำลังทำ
ขอขอบคุณ jobbkk