วุฒิภาวะเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถาะไหนก็ควรมีติดตัวเอาไว้เสมอ เพราะถ้าวันหนึ่งคุณได้ขึ้นเป็นผู้นำ
จะทำให้คุณบริหารคนได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมหากคุณอยากเป็นผู้นำที่ลูกน้องเคารพและเชื่อมั่น ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างด้วยพฤติกรรมที่ดีและเหมาะสม
แสดงวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือที่สุด มีความฉลาดทางความคิดและอารมณ์ ไม่ใช้ อำ น า จ ในทางที่ผิด ข่ ม เ ห ง ผู้ที่ด้อยกว่า
จะช่วยให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาพร้อมใจกันอยากทำงานออกมาจากใจ ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่การเป็นผู้นำนั้นต้องสร้างความสามัคคีไม่ใช่ความแตกแยก
เพื่อสะท้อนสะภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำที่ดี แต่ถ้าเราแสดงออกด้วยพฤติกรรมทั้ง 5 แบบเหล่านี้ละก็นอกจากจะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วยแล้ว
ยังทำให้เสียลูกน้องดี ๆ ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
1. ปิดใจไม่ยอมรับฟังลูกน้อง
การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายสำหรับการเป็นผู้นำครับ แม้เราจะต้องเดินนำคนอื่นอยู่ข้างหน้า แต่การหยุดพัก
ฟังเสียงคนรอบข้างเสียหน่อยจะช่วยให้เราได้ไอเดียดี ๆในการทำงานมากอีกมาย โดยเฉพาะลูกน้องของเราที่ได้ลงไปสัมผัสกับชิ้นงาน
ทำให้พวกเขารู้ดีที่สุดว่าปัญหาของงานนั้นคืออะไร จะได้ช่วยกันหาทางแก้ได้อย่างถูกจุด
ที่สุดการมีลูกน้องเป็นเพื่อนคู่คิดเหมือนได้ลาภอันประเสริฐ เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าการแก้ไขปัญหาคนเดียวครับ
2.พูดคำไม่สุภาพกับลูกน้อง
การ สื่ อ ส า ร เป็นทักษะสำคัญสำหรับคนทำงาน แต่ต้องมาพร้อมกับการ สื่ อ ส า ร ที่ดี ไม่ ทำ ร้ า ย คนฟัง ไม่ว่าเราจะอยู่ลำดับไหนด้วยเช่นกันครับ
ดังนั้นการเป็นผู้นำที่ดีต้องมีสติในการ สื่ อ ส า ร เสมอรวมไปถึงความฉลาดทางอารมณ์ที่ต้องใช้เหตุผลและคำพูดที่ดีไม่
ทำ ร้ า ย จิตใจใคร จำไว้เสมอว่าคำพูดที่เราพูดออกไปแล้วนั้นไม่สามารถนำกลับมาได้คำพูดส่งผลต่อพฤติกรรมของคนฟังเช่นกันครับ
ถ้าเราใช้คำพูด ร้ า ย ๆ หรือวิพากษ์วิจารณ์ลูกน้องต่อหน้าคนอื่นในบริษัท จะส่งผลให้เขาเสีย
ความมั่นใจและเสีย บ ร ร ย า ก า ศ ในการทำงาน กลับกันถ้าเราใช้คำพูดที่ดี ใจเย็นมีเหตุผล จะช่วยให้ลูกน้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น
เพราะรับรู้ว่าหัวหน้ายังรับฟังเขาอยู่เสมอ
3.โยนความผิดให้ลูกน้อง
นับว่าเป็นเรื่อง ร้ า ย แ ร ง สำหรับความสัมพันธ์ของคนในทีม เมื่อหัวหน้าถูกตำหนิจากเบื้องบนหรือผู้บริหาร และนำความ
เ ค รี ย ด นั้นมาลงกับลูกน้องด้วยการโยนความผิดให้คนอื่นนั้นอาจส่งผลไปถึงความแตกแยกได้เช่นกันไม่ว่าความผิดนั้นจะมาจากใคร
สิ่งแรกที่ควรทำคือช่วยกันคิดเพื่อหาทางแก้ ดีกว่าหาตัวคนผิด นอกจากเสียเวลาแล้วยัง บั่ น ท อ น จิ ต ใ จ คนทำงานด้วยครับ
ฉะนั้นหัวหน้าอย่างเราควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้องว่าทุกปัญหาย่อมมีทางแก้เสมอ
4.ไล่บี้งานลูกน้อง
การมอบหมายงานทุกครั้ง ต้องมาพร้อมกับความชัดเจนในการส่งงาน เพื่อให้พนักงานสามารถจัดสรรเวลาการทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น
เพื่อที่จะส่งงานได้ตามกำหนดแม้หัวหน้าจะมีสิทธิ์ในการทวงถามงาน แต่หากยังไม่ถึงกำหนดส่งก็ไม่ควรไล่บี้จนลูกน้องเกิดความกังวล
และทำงานรน ๆ จนเกิดข้อผิดพลาดถ้าต้องการงานชิ้นนั้นอย่างเร่งด่วนจริง
แต่ลูกน้องยังไม่ส่งมอบงานก็ลองไถ่ถามลูกน้องถึงปัญหาในการทำงานด้วยความใจเย็น เผื่อว่าเราจะมีส่วนช่วยในการให้ลูกน้องทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
5. ไม่พัฒนาลูกน้อง
การจะปกครองคนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดคือการไม่หวงความรู้ครับ เพราะการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในทีม
เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาการทำงานต่อไปได้อย่างดีที่สุดเพราะหัวหน้าสามารถใช้ทักษะและประสบการณ์ที่มีบอกต่อได้อย่างน่าเชื่อถือ
ถ้าปล่อยปะละเลย ไม่สนว่าลูกน้องเรียนรู้ไปถึงไหน ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ในทีม แ ย่ ลงกว่าเดิม
ไปอีกถ้าหัวหน้าสามารถทำให้ลูกน้องของเราเก่งขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ลูกน้องมีความสามารถในการรับผิดชอบต่องานได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น
เปิดทางให้ลูกน้องเข้ามา สื่ อ ส า รสอบถาม และขอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงาน เชื่อผมสิครับว่า
จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอนมุมมองเหล่านี้สะท้อนการขาดภาวะการเป็นผู้นำได้เป็นอย่างดี
แต่ถ้าเราแก้ไขให้เป็นไปในทางที่ดีได้นั้นการบริหารงานและบริหารคนจะเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิม
ลูกน้องเองก็จะให้เกียรติและให้ใจในการทำงานกับเราแน่นอน
ขอบคุณที่มา : h a p p y w o r k a p p