ถ้ามองกันให้ลึกซึ้งละก็ การผิดหวังในรัก บ้างน่ะ เชื่อสิใครๆก็เคยเจอปรากฏการณ์ ป วดใจแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น คงไม่มีใครสมหวังกับความรักไปซะทุกคนและทุกครั้งหรอก ฉะนั้น
หากจะผิดหวังบ้างก็ไม่เห็นเป็นเรื่องเ ล วร้ า ยอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาซะด้วยซ้ำแต่การผิดหวังในความรักบางครั้งก็มีข้อดีแฝงอยู่มั่ง เหมือนกันนะตัว เช่น….
1. ทำให้รู้ข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดของตัวเอง
ไม่ต้องสังเกตคงรู้ๆกันอยู่ว่า การเลิกรากะใครสักคน ส่วนมากย่อมเกิดจากคู่รักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองคนเลยแหละ ดันมี
พฤติก ร ร มบางอย่างที่ทำให้คู่รักอีกฝ่าย
สะกิดใจขึ้นมาดิ่ว่า ชักไม่ชอบ, ไม่พอใจและอยากหนีไปไกลๆแล้วอ่ะ แถมความรู้สึกนี้มันเหลืออดแล้วด้วย เช่นเจ้าชู้ดีนัก จึงทำให้แฟนเกลี ยด แต่ตรงข้ามถ้าชอบซื้ อของ
มาประเคนแฟน หยั่งงี้ไม่มีเกลี ยดหรอกจ้ะ มีแต่เลิฟสิไม่ว่าส่วนกรณีสะบั้นรักจากกันนี่ บางทีอยู่ๆกันไปแล้วเพิ่งรู้ว่าไม่ชอบการกระทำของแฟนอ่ะ และอาจเป็นความรู้สึกที่
สะสมก็ ได้ใครจะไปรู้ แต่หากตอนเลิกรากัน เราเกิดรู้ ข้อบกพร่อง ของตัวเองเพราะแฟนเก่าสาธย ายให้ฟังปาวๆ ต่อไปวันข้างหน้า เราจะได้ปรับ ปรุงตัวให้เป็นสวีตฮาร์ตที่ดี
ของคนรักคนต่อไปไม่ดีหรอกเรอะ นี่แน่ เค้าถึงว่า มีบท เรียนเป็นครูไงเล่า
2.ในทางตรงข้าม ก็ทำให้เราได้รู้ข้อดีที่ตัวเองมีเช่นกัน
เชอะ เชื่อมะว่า การแยกทางจากกันบางครั้งก็ใช่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดซะเต็มประตูแต่เพียง ฝ่ายเดียวหรอกนะ ย่อมมีมั่งล่ะวะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็มีสิ่งที่ชวนทำให้เราไม่ชอบเช่นกัน เช่น
คนนึงขี้จุ๊ ส่วนอีกคนขี้เกียจ ไม่ยอมทำงานทำการ หากตรองดูแล้วก็เ ล วร้ า ยครือๆกัน ทว่าขณะที่เราขี้จุ๊ก็จริง แต่ก็เอาใจใส่และรักแฟน เป็นห่วงเป็นใยเค้าเสมอ ซึ่งตรงนี้เค้าอาจ
ไม่เคยทำให้เรารู้สึกได้เหมือนกับที่เราทำให้เค้าก็ได้ จึงถือว่าเรายังมีข้อดีให้เก็บมาชื่นชมด้วยนะเฟ้ย…… คิดซะงี้จะได้สบายใจ แต่อย่าถึงกับเข้าข้างตัวเองแบบข้างๆคูๆ ประเภท
ไม่ได้ดีจริง แต่คิดว่าตัวเองดี เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าชอบโมเมเว้ยเฮ้ย
3.ได้ทบทวน ความเป็น คนอย่างเราในอดีต เพื่อรอรักรีเทิร์นในอนาคต
วันข้างหน้าแม้ไม่มีเค้าเป็นแฟนแล้ว ทีนี้ล่ะ คือช่วงเวลาที่เราจะปรับตัวและหัวใจ ให้โสภาสถาพรขึ้น ด้วยการละทิ้งความเฮงซวยในอดีตของตัวเองไปซะ แล้วค้นหาว่า คนใหม่ที่
เราควรเป็นนั้นน่าจะมีคุณสมบัติยังไงมั่งน้า เอ้า ไม่แน่นะ บางทีพอเราเป็นนิววัน (คนใหม่) ขึ้นมา อาจเกิดกรณี รักรีเทิร์น ก็ได้ ลองคนเราไม่ได้เกลี ยดกันเข้าไส้ หรือไม่ถึงกับ
ไม่อยากพบเจอะเจอกันอีกแล้วในชาตินี้ละก็ ย่อมมีโอกาสกลับมาเป็นมิตรกันอีกได้ แล้วการเป็นมิตรกับแฟนเก่าน่ะไม่ดีตรงไหนมิทราบฮ้า
4.ทำให้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น
คนที่เคยผ่านความรักและเคยรักคนอื่นมาแล้ว แม้หากผิดหวังหรือ ไม่สมรัก ก็แสดงว่า คุณเริ่มรู้แล้วไงว่า ความรักที่แท้จริงน่ะเป็นยังไง? เพราะบางทีการให้ความรัก อย่างเดียวก็
ใช่ว่าจะทำให้การครองคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่งนี่หว่า การเป็นแฟนกันยังมีปัจจัย อีกมากมายที่ต่างฝ่ายต่างต้องอาศัยการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัย, การทำเป็นลืมว่า
เค้าไม่ดีตรงไหนบ้าง, การเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือปิดตาข้างนึง เวลาเค้าต้องออกไปเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วเกิดบ้ าจี้อยากไปกะลิ้มกะเหลี่ยอีสาวพริตตี้ขึ้นมา ถ้าไม่เว่อร์ไปก็
ปล่อยๆไปมั่งก็ได้ ถือซะว่า ปล่อยให้เค้าสนุกมั่งก็ช่างมันเถอะ ขืนวันไหนกลับมาต า ยรังแล้วจะเหยียบซ้ำ เอ้ย อ้าแขนรับ แหม ไม่โห ดงั้นหรอก รับรองชอบสันติวิธี
5.ทำให้รู้ว่า พร้อมที่จะมีความรักอย่างจริงจังแล้วหรือยัง?
อ่ะ บางทีความไม่สมหวังในรักที่ผ่านมา อาจเกิดจากการที่ทั้งตัวเราและคู่ของเรา ไม่พร้อมที่จะรักกัน แต่สะเหล่อคิดว่าพร้อมหรือเปล่านะ? จึงตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน ทั้งที่
ไม่น่าจะเป็นแฟนได้ก็มี ยกตัวอย่าง คู่รักบางคู่ที่ยังไม่สามารถหางานทำมาเลี้ยงตัวเอง ได้เลยจึงต้องแบมือขอจากพ่อแม่ แต่ดันมีแฟนซะและ ซึ่งมีแฟนก็ต้องมีเงิน ดังนั้น
เวลาพากันไปเที่ยวไหนๆ หรือไปปาร์ตี้ที่ใด ก็ต้องขอตังค์พ่อแม่ใช้ หากถูกพ่อแม่เอ็ดเอา ให้สำนึกล่ะ หรือพูดในสิ่งที่คุณรับไม่ได้จนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เจ้าคนมีรักเมื่อไม่พร้อม ก็
อาจประชดผู้ใหญ่ได้ สิ่งเหล่านี้มันบั่ นท อนความรักของพวกคุณน่ะสิ ถ้าไม่พร้อมก็อย่ารีบ มีเลยแฟนเฟินน่ะ โดยเฉพาะถ้าไม่พร้อมด้านวุฒิภาวะด้วยแล้วจึงเกิดหึงโห ด ได้ง่ายอ่ะดิ่
6. ทำให้รู้ว่า โลกนี้ยังมีคนอีกเยอะที่เราจะได้ทำความรู้จักต่อไปในอนาคต
ลองมองออกไปข้างนอกสิ เห็นมะยังมีผู้คนอีกเยอะแยะที่เราไม่รู้จัก ยังไม่เคยคบ ดังนั้น ถ้าพลาดรักครั้งนึงจึงไม่ได้หมาย ความว่าคุณพลาดทุกสิ่งทุกย่างในชีวิตนี่หว่า แต่
อย่างว่า พอใจเราไปผูกพันกับใครสักคนแล้วก็มักแกะกันไม่ค่อยออก ยิ่งรักมากก็ยิ่งหวงมาก เฮ้อ…งั้นรักกันในทางสายกลางดีกว่านะฮ้า จะได้ไม่ชีช้ำมาก ทราบแล้วเปลี่ยน.
ขอขอบคุณ sanook