1.คนอื่นเป็นฝ่ายยอมตลอด
อันนี้เป็นสัญญาณแรก คือ การให้คนอื่นเป็นฝ่ายยอมตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรหรือคิดอะไร
ก็มักจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล และคนอื่นต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่คิดที่ทำทุกครั้ง
แม้บางครั้งคนอื่นอาจจะไม่ชอบสิ่งที่หยิบยื่นให้ก็ตาม การที่คนยอมนั้นไม่ได้แปลว่ากลัว
แต่มันเป็นการรักษามิตรภาพ อย่าลืมว่า “แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร”
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายนี้
2.ตัวเองก้าวก่ายเรื่องต่างๆ ได้…คนอื่นอย่าแหยม
ไม่ชอบให้ใครมาพูดหรือคิดเห็นต่าง ย า ม คนอื่นพูดหรือเตือนกลับมองว่าเป็นการ
ก้าวก่ายอารมณ์เสีย ในขณะที่ตัวเองสามารถวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นได้ทุกเรื่อง
ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่
3.อยากให้คนอื่นเป็นอย่างที่ต้องการ
เคยถามความต้องการของคนอื่นบ้างหรือเปล่า ต้องกินเหมือนกัน ต้องไปด้วยกัน
ต้องไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันอันนี้ไม่ใช่แค่เห็นแก่ตัวเท่านั้นแต่ ทำ ร้ า ย จิ ต ใ จ
คนอื่นด้วย เพราะมันแสดงถึงว่าไม่เคยพอใจในสิ่งที่คนอื่นมีหรือสิ่งที่คนอื่นเป็น
แต่กลับอยากให้เป็นอย่างที่ต้องการไปเสียทุกอย่าง
4.เอาแต่ใจตัวเอง
ไม่ว่าจะถกเถียง โต้แย้ง หรือกำลังหาคำตอบเรื่องใดอยู่ก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดแล้ว
จะผู้ที่เป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ในเมื่อมีคำตอบมีปักธงอยู่ในใจแล้วจะขอความคิดเห็นทำไม
คือ แบบนี้ไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ต้องการคนที่มาสนับสนุนความคิดเท่านั้นแหละ
อย่าถามให้เหนื่อยเพราะสุดท้ายแล้วก็เลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ดี
5.ไม่เคยขอโทษ
เป็นฝ่ายผิดแต่กลับมองว่าตัวเองถูก หรือ รู้ว่าตัวเองผิดแต่ไม่เคยขอโทษและ
ที่ แ ย่ ก ว่ า นั้ น คือขอโทษแบบไม่จริงใจ ขอโทษแบบขอไปที
6.หงุดหงิดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ หงุดหงิดเสมอ หากสิ่งที่คาดหวังไม่ได้ดั่งใจ ที่หนักไปกว่านั้น
ไม่ว่าจะหงุดหงิดมาจากไหนก็ตามมักจะมาระบายหรือหงุดหงิดใส่คนอื่นอีกต่างหาก
เช่น การพูดประชดประชัน ตวาด เสียงดัง หรือใครไม่อินไปด้วยกับปัญหาที่เจอ
หรือสิ่งที่เล่าให้ฟัง ก็มักจะทำสิ่งนั้นเพื่อให้คนอื่นได้รู้สึกแบบเดียวกัน อาจตามมาด้วย
คำพูดประมาณว่า…“เข้าใจหรือยังล่ะ” หรือ “รู้สึกหรือยังล่ะว่าฉันรู้สึกยังไง”
7.ไม่เคยช่วย หรือ ช่วยก็ทวงบุญคุณ
อย่าคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ที่จะปล่อยให้คนอื่นทำทุกอย่างโดยอ้างว่าเหนื่อยหรือ
ทำมามากแล้วหรือช่วยก็เพียงเพื่อให้รู้สึกถึงบุญคุณ ทั้งๆที่ประโยชน์ตกอยู่กับตัวเอง
มากกว่าความเห็นแก่ตัวเป็นกิเลสในตระกูลโลภะและโลภหนักไปหน่อย จึงเห็นแก่ตัว
เจอคนเห็นแก่ตัวต้องเข้าใจว่า…นิสัยเห็นแก่ตัวมี 2 สาเหตุใหญ่ๆ
สาเหตุที่ 1 เป็น สั น ด าน คือ นิสัยที่ติดตัวข้ามภพข้ามชาติมา ถ้าเจอประเภทนี้หนักหน่อย
เจอต้องทำใจ
สาเหตุที่ 2 เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นในชาตินี้ คือ เกิดจากสิ่งแวดล้อมไม่ดี คนรอบข้างไม่ดี
การเลี้ยงดูไม่ดีก็เลยทำให้
อาจจะต้อง แ ย่ ง ชิ ง สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ สั่งสมขึ้นมาแล้วกลายเป็นนิสัยเห็นแก่ตัวอันนี้
พอจะกล่อมเกลาได้แต่ต้องอดทน แต่ยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง คือ ตัวเองก็ไม่ดีเอง เช่น
บริหารงาน บริหารเงิน ไม่เป็น
…สุดท้ายเศรษฐกิจฝืดเคืองเลยกลายเป็นคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวเข้ามาอีกแบบนี้
พออุปสรรคน้อยลง ความเห็นแก่ตัวก็จะคลายลงด้วย
ขอขอบคุณ gangbeauty