1.ถามอะไรก็ไม่มีความเห็น
เมื่อก่อนเคยชมว่าใส่ชุดนั้นสวย ใส่ชุดนี้น่ารัก แต่ตอนนี้กลับแสดงท่าทีเฉยๆ แต่งหน้าสวยก็ไม่ชมแถมบ่นว่าต้องรอนานตอนออกไปช้อปปิ้ง ก็ทำหน้าเฉยชา ถามอะไร
ก็ไม่มีความเห็น อาการแบบนี้ เป็นใครก็น้อยใจทั้งนั้น
2.เถียงกัน น้อยลง
ไม่เพียงในแง่ของการสนทนาเท่านั้น ถ้ารู้สึกว่าสา มีมีข้อโต้แย้งน้อยลง ได้ยินแต่คำว่า “แล้วแต่” คุณอาจจะต้องเริ่มกังวลบ้างแล้วล่ะ เพราะมันอาจจะเป็นสัญญานของ
การดื้อเงียบ อันเนื่องมาจากเขาเริ่มไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้ ในขณะที่คุณอาจคิด ว่ามันเป็นเรื่องทีดีที่สามีไม่มาโต้เถียงทะเลาะด้วย ตามใจตลอด แต่
จริง ๆ แล้ว นั่นอาจหมายความว่าเขาไม่ได้สนใจคุณเหมือนเคยก็ได้
3.เมื่อสองคนกลายเป็นลำพัง
จำได้ไหมว่า ตอนจีบกัน ตอนแต่งงานใหม่ ๆ เคยออกไป ซื้ อ ข อ ง จ่ายตลาดด้วยกันทุกสุดสัปดาห์จำได้ไหมว่าเราไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยกันทุกวัน ? มันจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าสามีคุณเริ่มมีธุระบ่อยๆ และปฏิเสธที่จะไปไหนด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนี้คุณควรเริ่มเปิด ใจพูดคุยกันได้แล้ว เพื่อที่ความสัมพันธ์จะได้
ไ ม่ แ ย่ ไปกว่านี้
4.เมื่อบ้านกลายเป็นโรงแรม
จากที่เคยเข้างาน 9 โมงเช้า เลิก 6 โมงเย็น กลายเป็นต้องอยู่ทำโอทีดึกๆดื่นๆ กลับบ้าน 4 ทุ่มแทบจะทุกคืนแถม เ ส า ร์ –
อ า ทิ ต ย์ ก็ยังต้องออกไปทำงานอีก และแม้ว่า
เวลาที่มีส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องงานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เลื่อนขั้น หรือเงินเดือนขึ้นเลย เมื่อสามีกลับบ้านก็รีบอาบน้ำเข้านอนทำแต่งาน การบ้านไม่ทำ ปิดไฟนอนหันหลัง
ผ้าไม่ซัก บ้านไม่เก็บ และเมื่อเขา พ ย า ย า ม ที่จะใช้เวลาอยู่บ้านให้น้อยที่สุดกลับบ้านดึกทุกวัน ซึ่งทุกครั้งข้ออ้างที่คุณภรรยามักจะได้ฟังอยู่บ่อยๆก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง
เลี้ยงส่งบ้าง วันเกิดบ้าง เลี้ยงได้เลี้ยงดี เลี้ยงกันทุกวี่วันสุดท้ายข้ออ้าง ที่จะได้ยินก็หนีไม่พ้นเพื่อเงินโบนัสสำหรับอนาคตของครอบครัวแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขารู้สึกว่า
กลับบ้านมาแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้สึกว่าอยากรีบกลับบ้านเร็วๆนั่นก็อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ ค่อยๆจืดจางลงแล้วก็เป็นไปได้
5.ทุกครั้งที่คุย ไม่รู้สึกดีเหมือนเคย
ทุกครั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จากที่เคยโทรหา ก็เริ่มไม่ค่อยสนใจ แถมไม่ค่อยจะรับสายอ้างว่างานเยอะยุ่งอยู่บ้างปิดเสียงไว้ ไม่ได้ยินบ้าง แม้กระทั่งตอนที่คุยกัน จากที่เคยเล่า
เคยถามไถ่ กลับกลายเป็นความเงียบอารมณ์ไม่มีอะไรจะคุย ไม่รู้จะคุยอะไรก็เกิดขึ้นแบ บที่คุณก็รู้สึกได้ คำพูดที่ว่า “มีอะไรไว้คุยกันที่บ้านนะ” ออกจากปากของคุณสามี
อยู่บ่อยครั้ง เมื่อคนสองคนเริ่มพูดกันน้อยลง อีกไม่นานความสัม พันธ์อันง่อนแง่นก็จะตามมา
6.เกิดสังคมก้มหน้าขึ้นในบ้าน
แม้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะทำให้การ ติ ด ต่ อ สื่ อ ส า ร ดูง่ายขึ้น แต่เรากลับรู้สึกเหมือนถูกตัดขาด จากคนใกล้ตัวเมื่อสามีเอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ มีเวลาว่างเมื่อไหร่
ก็หยิบ แ ท็ ป เ ล็ ต ออกมาเล่น ไม่สนใจลูกเมียคุยได้ กดไลก์ได้ทุกคนยกเว้นคนในบ้าน นั่นก็เป็นอีกสัญญาณที่อาจแสดงถึง อาการหมดรักของสามี ก็เป็น ได้
7.เมื่อ เ ซ็ ก ส์ จื ด จ า ง
นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ว่าชีวิตการแ ต่งงานของคุณกำลังมีปัญหา หากพวกคุณใช้เวลาที่สมควรจะมีความสุขแต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า หรือแม้แต่การ
ปฏิเสธที่จะมี เ ซ็ ก ส์ เหนื่อยบ้าง ไม่มีอารมณ์บ้างนั่นก็คงถึงเวลาที่คุณควรเริ่มกังวลได้แล้ว ถ้าสามีของคุณเป็นแบบนี้แล้วละก็จำเป็นอย่างมา กที่คุณต้องเริ่มพูดคุย และ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปการแต่งงานไม่ ใช่การผูกมัด เพราะชีวิตคู่คือการอยู่ด้วยกันเรียนรู้ซึ่งกันและกันหากคุณมีสามีหรือคนรักที่ดี แต่คุณ
ไม่สามารถเข้าใจและเป็นที่พักใจให้แก่เขาได้
สุดท้ายความรักก็จะจืดจางไป ไม่ว่าคุณจะสวยขนาดไหนก็ตาม ดังนั้นอย่าลืมที่จะใส่ ใจสนใจพูดคุย และปรับเปลี่ยน ก่อนที่จะเจอกับ อาการหมดรักของสามี นะครับ
ที่มา : kumkoom