วิธีการพูด ที่ใช้เราบ่อยๆ สื่อถึงความเป็นตัวเราได้ดีที่สุด บางวิธีก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์
ขณะที่บางวิธีอาจยิ่ง ทำ ร้ า ย ความรู้สึกให้ย่ำ แ ย่ ไปกว่าเก่ามาลองดูกันว่าคุณ หรือ
คนรอบข้างคุณ กำลังพูดแบบนี้ จนเป็นนิสัยอยู่หรือเปล่า หากใช่ ก็ขอให้ลดละเลิก
เพื่อประคองความรู้สึกที่ดีระหว่างกันเอาไว้
พูดถึงเรื่องในอดีตที่ผิดพลาดของคนอื่น
การยกความผิดพลาดของคนอื่นขึ้นมา พูดถึงซ้ำๆ ทั้งที่หากคิดโดยใช้หลักเหตุผลก็
รู้ว่าพูดบ่อยไปก็ไม่มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือยกความผิดพลาดนั้นมา
พูดต่อหน้า คนอื่นๆ การกระทำแบบนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คนพูดดูเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น
ยังถือเป็นการบ่มเพาะทั้งความขุ่นเคือง และความอับอายให้แก่คนฟัง ซึ่ง
ไม่ส่งผลดีต่อทั้งความสัมพันธ์และประสิทธิภาพในการทำงานอย่างแน่นอน
พูดความลับของอีกคนให้คนอื่นฟัง
ความไว้ใจไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างกัน ได้ใน ชั่ ว ข้ า ม คื น กว่าเราจะเปิดใจพูดเรื่องลับ ๆ หรือ
เรื่องที่ตัวเราไม่สบายใจและไม่อยากให้คนอื่นรู้ให้ ‘ใครสักคน’ ฟังได้ก็ต้องมีความไว้ใจกัน
พอสมควร ลองคิดดูว่าหากความลับที่ว่าถูกคนอื่นที่เราไม่ได้สนิทใจรู้เข้า จะรู้สึก
แ ย่ แค่ไหน หากไม่อยากเปลี่ยนจากคนดีๆ เป็นคน แ ย่ ๆ ก็อย่าเอาเรื่องที่
คนอื่นไม่อยากให้ใครรู้ไปพูดต่อ
พูดปัดความรับผิดชอบ
‘อ๋อ ฉันไม่รู้เรื่องนะ อีกคนต่างหากที่ดูแล จัดการเรื่องนี้’ การพูดปัดหรือโยนความรับผิดชอบ
นอกจากจะกระทบไปถึงคนที่เราโยนความรับผิดชอบไปให้แล้ว ยังทำให้ตัวเราถูกมองว่า
ขาดความน่าเชื่อถือและพึ่งพาไม่ได้ไปด้วย โดยเฉพาะหากความรับผิดชอบนั้น
เป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่การของเรา
พูดเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน
ในระหว่างบทสนทนา เราควรตั้งใจฟังให้ดีด้วยว่าคนอื่นเขาพูดเรื่องที่คุยค้างอยู่จบหรือ
ยังการตัดบทเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นกระทันหัน นอกจากจะทำให้คนอื่นๆ เสียอารมณ์
แล้วยังแสดงให้เห็นถึงความไร้กาลเทศะ และความไม่ใส่ใจผู้อื่นของเราด้วย
พูดถึงความจำเป็นของตัวเองฝ่ายเดียว
‘ทำเรื่องนี้ให้พี่หน่อย พี่ทำคนเดียวไม่ไหวแล้ว ภาระพี่เยอะ’ ยกเอาความจำเป็น
ของตัวเองมาก่อนชักแม่น้ำสามสิบแปดสายเพื่อโยนภาระของตัวเองให้คนอื่น
การพูดจาทำนองนี้อาจเรียกความเห็นใจได้ในระยะสั้นแต่หากทำจนเคยตัว
จะกลายเป็นน่าเอือมระอาไป ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่เป็นของตัวเองทั้งนั้นควรเอาใจ
เขามาใส่ใจเรา และนึกถึงความจำเป็นของคนอื่นก่อนพูดด้วย
พูดเปรียบเทียบคนอื่นกับคนฟัง
เปรียบเทียบลูกตัวเอง กับลูกคนอื่นที่เรียนเก่งกว่า เทียบลูกน้องอีกคนกับลูกน้องตัวเอง
เปรียบเทียบคนอื่นกับแฟนตัวเองจริงอยู่ที่คนเรามีความแตกต่างกัน แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง
ที่เราจะอยากโดนเปรียบเทียบ ไม่ว่าคนพูดจะหวังดีอยากพูดเพื่อ เป็นแรงผลักดันหรือ
พูดเพื่อกดคนอื่นลงต่ำ สุดท้ายแล้วหากพูดแบบนี้จนเป็นนิสัยไม่ว่ากรณีไหนก็ไม่น่าฟังอยู่ดี
พูดเรื่องไม่จริงที่ทำคนอื่นเดือดร้อน
จะมีอะไร แ ย่ ไปกว่าการพูด โ ก ห ก จนคนที่ถูกพูดถึงตกอยู่ในสถานการณ์
ลำบากใจอีก การพูดกลับดำเป็นขาว ตีไข่ใส่สีจนเรื่องต่างๆ แ ย่ ลงกว่าเดิมนั้น
ไม่ใช่การกระทำ ของคนที่หวังดีต่อกันแน่ๆ หากยังอยากมองหน้ากันติดและ
มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ก็ควรเลิกพฤติกรรมแบบนี้ก่อนที่จะไม่เหลือใครให้คบ
เมินสิ่งที่อีกคนพูดกับเรา
ข้อนี้แม้ไม่ใช่วิธีพูด แต่กลับเป็นการแสดงออกที่ ทำ ร้ า ย จิตใจคู่สนทนามากที่สุด
หากเราไม่ได้กำลังทำธุระอื่นควรรับฟังสิ่งที่คู่สนทนาพูด หรือหากเรากำลังอยู่ในอารมณ์
ที่ขุ่นมัวก็ควรจะตอบไปตามสมควรบ้างเพื่อรักษาน้ำใจของกันและกันเอาไว้
ไม่มีใครหรอกที่อยากถูกเมิน คุณเองก็เช่นกัน
ขอขอบคุณ g o o d l i f e u p d a t e