สมัยนี้ใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจของตัวเองกันทั้งนั้น เพราะอิสระในการจัดการชีวิต และผลตอบแทนที่ล่อใจ
หรือบางคนอาจแค่ต้องการรายได้เสริมจากงานประจำ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความพร้อม
ด้านทุนทรัพย์ในการเปิดธุรกิจด้วยตัวเอง 100% การมองหาผู้ร่วมทุนทำธุรกิจ จึงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ
คนพิจารณา ซึ่งตัวเลือกอันดับ 1 ในใจเราก็คงหนีไม่พ้นเพื่อนซี้ที่เรารู้ใจคอกันมาอย่างดีนั่นเอง
แต่การทำธุรกิจกับเพื่อนให้ประสบความสำเร็จนั้นก็มีเรื่องทีควรพิจารณาอยู่พอสมควร
จะมีอะไรบ้าง มาลองดูกันไปพร้อม ๆ กันเลย
ทำธุรกิจกับเพื่อนดีไหม?
ข้อนี้น่าจะเป็นคำถามแรก ๆ ที่ทุกคนคิดตอนกำลังพิจารณาทำธุรกิจ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า
การทำธุรกิจกับเพื่อนนั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ง่ายและสบายอย่างที่หลาย ๆ คนคิด บางทีเราอาจคิดว่าตัวเอง
รู้จักนิสัยใจคอของเพื่อนสนิทเป็นอย่างดี ทั้งยังเคยร่วมงานกันมาก่อนจากการทำโปรเจคด้วยกันสมัยเรียน
น่าจะมาทำธุรกิจด้วยกันได้อย่างไม่มีปัญหาแถมยังเป็นคนที่เราไว้ใจ แต่ในชีวิตความเป็นจริง การทำธุรกิจ
กับเพื่อนอาจไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น เพราะนอกจากเรื่องการวางแผน การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ แล้ว
ยังมีเรื่องของความสัมพันธ์และเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญและละเอียดอ่อนมากพอที่จะส่งผลให้ธุรกิจ
ของคุณไปได้ไกล หรือพังไม่เป็นท่าได้เลยทีเดียว ดังนั้นแล้วจะตัดสินใจทำธุกิจกับเพื่อนดีไหม
เราจึงควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ให้รอบด้านกันเสียก่อน
ข้อดีของการทำธุรกิจกับเพื่อน
1.มีทุนมากขึ้น
หากเราเริ่มต้นทำธุรกิจเองคนเดียว ปัญหายอดฮิตประการแรกของหลาย ๆ คนเลยก็คือการมีงบประมาณที่จำกัด
แต่ถ้าเรามีเพื่อนมาร่วมทำธุรกิจ ยิ่งมีหลายคน ก็ยิ่งทำให้เรามีทุนเพิ่มและทำสิ่งต่าง ๆ ได้คล่องตัวมากขึ้น
ไม่ต้องควักกระเป๋ามาลงทุนทุกอย่างเองทั้งหมด
2.มีผู้ช่วยแบกรับความเสี่ยง
เป็นเรื่องปกติที่หลาย ๆ คนยังไม่กล้าลงทุนทำธุรกิจเองคนเดียว เพราะกังวลว่าหากธุรกิจที่เราลงทุนไปนั้นไม่ได้ผล
สั่งสินค้ามาแล้วขายไม่ออกเท่ากับว่าเราต้องแบกรับสภาพขาดทุนเองทั้งหมด ดังนั้นการที่เรามีคนมาร่วมทำธุรกิจด้วยกัน
ก็ช่วยลดความตึง เ ค รี ย ด จากการแบกรับความเสี่ยงไปได้ส่วนหนึ่ง
3.ไม่ต้องแบกปัญหาคนเดียว
การมีเพื่อนมาร่วมทำธุรกิจด้วยกัน นอกจากจะช่วยแบกรับความเสี่ยงแล้ว ยังมีคนร่วมคิดร่วมแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน
ทำให้เราได้เห็นแนวทางการแก้ปัญหาใหม่ ๆ ที่ตัวเราเองอาจนึกไม่ถึง และยังแบ่งเบาภาระหน้าที่ต่าง ๆ ให้เราอีกด้วย
4.ได้ไอเดียใหม่ ๆ
ข้อดีของการทำธุรกิจกับเพื่อนก็คือเรากล้าที่จะออกความเห็นที่เป็นตัวเรามากขึ้น ไม่ต้องคอยกังวลมากนัก
ด้วยความคุยกันง่ายนี้ ทำให้ได้ไอเดียใหม่ ๆ มาใช้ในการทำธุรกิจ ยิ่งมีเพื่อนมาร่วมทำธุรกิจด้วยกันหลายคน
ก็ยิ่งได้ความหลากหลายแปลกใหม่มากขึ้นไปอีก
5.ความไว้เนื้อเชื่อใจสูง
ข้อดีของการทำงานกับเพื่อนอีกประการหนึ่งก็คือ ความรู้สึกสบายใจเมื่อมอบหมายงานหรือ
หน้าที่ที่มีความสำคัญให้เพื่อนทำเพราะเรารู้จักนิสัยใจคอกันอยู่ และปัญหาความไม่ไว้วางใจ
ในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
ข้อเสียของการทำธุรกิจกับเพื่อน
1.ความเกรงใจอาจกระทบงาน
ในบางครั้ง คำว่า “เพื่อน” ก็ทำให้เราตัดสินใจได้อย่างไม่เป็นกลางเท่าไหร่ เพราะความรู้สึกเกรงใจที่เกิดขึ้น
เช่น บางครั้งแล้วอาจเกิดปัญหาหรือความผิดพลาดขึ้นในธุรกิจที่อาจมาจากเพื่อนของเรา
แต่เรากลับไม่กล้าที่จะบอกหรือตักเตือนกับเพื่อนตรง ๆ เพราะความรู้สึกเกรงใจ กลัวว่าจะผิดใจกันนั่นเอง
2.แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานยาก
บางครั้งแล้วการที่เราทำงานด้วยกันกับเพื่อนก็ทำให้เราไม่สามารถแบ่งแยกเรื่องส่วนตัวออกจากการทำงาน
ซึ่งในบางครั้งก็อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้เช่น เราอาจผิดใจกับเพื่อนในเรื่องส่วนตัวทั่ว ๆ ไป แต่ยังคงต้อง
มาทำงานด้วยกัน หากแยกไม่ได้ ก็อาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในเรื่องของการทำงาน เป็นปัญหาบานปลายในที่สุด
3.ปัญหาเรื่องเงิน-การแบ่งกำไร
ประเด็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคล
เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นหากทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อนฝูงต้องทำให้เรื่องการเงินมีความโปร่งใสมากที่สุด
จะลงทุนกันเท่าไหร่ แบ่งผลกำไรกันอย่างไร ควรตกลงกันให้เรียบร้อย เป็นลายลักษณ์อักษรกันตั้งแต่แรก
วิธีทำธุรกิจกับเพื่อนอย่างไร ไม่ให้ผิดใจกัน
1.แบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน
ใครรับผิดชอบงานไหนบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง ควรตกลงกันให้เรียบร้อยตั้งแต่แรก และทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด
และที่สำคัญต้องวางเป้าหมายด้วยกันให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนทำงานแบบเกื้อหนุนกันไปในทิศทางเดียวกันจนตลอดรอดฝั่ง
2.เรื่องเงินทอง ต้องทำให้เป็นระบบ
อย่าใช้ระบบความไว้ใจเพียงอย่างเดียว อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเงินทอง ต้องมีการลงบันทึกไว้อย่างเป็นรายลักษณ์อักษร
เช่น หากหุ้นส่วนจะเบิกเงินกองกลางไปทำอะไรต้องทำเรื่องเบิกจ่ายตามระเบียบเดียวกันทุกคน ไม่มีการใช้ระบบแจ้งปากเปล่า
เพื่อให้ตรวจสอบได้ และหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
2.ตกลงเรื่องการแบ่งกำไรและการลงทุนให้เรียบร้อย
ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ ควรมีการตกลงกันให้เรียบร้อยเป็นสัญญาที่ชัดเจนว่าใครจะลงทุนเท่าไหร่บ้าง
และแบ่งผลตอบแทนกันแบบไหนเท่าไหร่ ถ้าทุกคนยินยอมข้อตกลงแล้วจึงค่อยเริ่มต้นทำธุรกิจ
สุดท้ายนี้ การลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง การร่วมลงทุนทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อนเองก็เช่นกัน
หากอยากให้การทำธุรกิจของเราเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ก็ควรจะพิจารณาข้อดี-ข้อเสียให้รอบด้าน
และทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกิจส่วนใครที่เริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ไปบ้างแล้ว
อยากได้ตัวช่วยแบ่งเบางานให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมธุรกิจ ลองให้ ZORT เป็นผู้ช่วยของคุณดูซิ
ไม่ว่าจะเป็นงานคุมสต๊อก หรือค่าใช้จ่าย ก็สามารถจัดการได้ง่าย ๆ แบบมือโปร
ที่มา : z o r t o u t