ท่านอนของแต่ละคนสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกที่อยู่ภายในจิตใต้สำนึก โดยเฉพาะ
ท่านอนของคู่รักที่จะบอกสถานะความสัมพันธ์เป็นอย่างดี ดังนั้นคืนนี้ลองเช็คท่านอน
ของเราและคู่รักดูสิว่า “คุณและเขากำลังคิดอะไรกันบ้าง” ท่านอนของคู่รักเหล่านี้
เป็นการ วิ จั ยทางจิตวิทย าที่จะช่วยบอกสถานะถึงความรักของทั้งคู่ที่มีให้แก่กัน
หลังจากเช็คท่านอนกันแล้วก็อย่ าลืมปรับความเข้าใจกันด้วยนะคะ เพื่อเพิ่ม
ความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วยค่ะ
1สปูน (Spoon)
นอนหันไปทางเดียวกัน โดยผู้ชายโอบกอดผู้หญิงจากด้านหลังท่านอนของคู่รัก
แบบสปูน บ่งบอกถึงความปรารถนาของฝ่ายชายที่ต้องการความเป็นผู้นำ
เพื่อปกป้องคนรักของตนเองและมีความมั่นคงต่อความรัก
2เดอะลูสสปูน (The Loose Spoon)
นอนหันไปทางเดียวกัน โดยผู้ชายโอบกอดผู้หญิงจากด้านหลัง แต่มีระยะห่าง
ที่ไม่แนบชิดกันความรักของทั้งคู่ยังมั่นคงดี ซึ่งในบางเวลาที่ต้องการความเป็น
ส่วนตัวบ้าง แต่ฝ่ายชายยังปรารถนาที่จะดูแลและปกป้องฝ่ายหญิงด้วยเช่นกัน
3เดอะเชส (The Chase)
นอนหันไปทางเดียวกัน โดยผู้หญิงโอบกอดผู้ชายจากด้านหลังท่านอนของคู่รัก
แบบนี้จะตรงข้ามกับ “ท่าสปูน” โดยฝ่ายหญิงต้องการความเป็นผู้นำ และต้องการ
ให้อีกฝ่ายรักตนเองด้วยเช่นกัน
4เดอะแ ทงเกิ้ล (The Tangle)
นอนหันหน้าเข้าหากันแล้วกอดเกี่ยวแนบแน่นบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่หวาน
ชื่นมากๆ ซึ่งมักจะพบในคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ หรือไปฮันนีมูนด้วยกัน
โดยไม่อย ากจะอยู่ห่างกันสักเพียงวินาที
5ลิเบอร์ตี้ (Liberty)
นอนหันหลังให้กันและมีระยะห่างที่ไม่แนบชิดกัน ลองเช็คสถานะดูว่ายังรักกัน
ดีอยู่หรือเปล่า เพราะท่านอนของคู่รักแบบนี้หมายถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มจะมี
ระยะห่าง และต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
6เดอะแบล็ค คิสเซอร์ (The Black Kisser)
นอนหันหลังให้กันแต่ยังชิดติดกัน ท่านอนแบบนี้คล้ายคลึงกับ “ท่าลิเบอร์ตี้”
เป็นท่านอนที่บอกถึงความรู้สึกสบายๆ ต่อกัน และยังมีความใกล้ชิดต่อกันอยู่บ้าง
7เดอะโรแมนติก (The Romantic)
ผู้หญิงนอนแนบชิดข้างๆ โดยใช้ใบหน้าซบอกและฝ่ายชายโอบไหล่ เป็นท่านอน
ที่พบได้บ่อย ซึ่งแสดงออกถึงความรักที่ยังคงสดใหม่และเต็มไปด้วยความปรารถนา
ต่อกัน รวมถึงความเชื่อใจของฝ่ายหญิงที่ต้องการให้อีกฝ่ายดูแลปกป้อง
8เดอะสเปซฮ็อก (The Space Hog)
ต่างคนต่างนอนด้วยท่าที่ตนเองสบายที่สุดท่านอนของคู่รักแบบนี้เริ่มจะไม่เวิร์คแล้วล่ะ
เพราะหมายถึงความรักที่จืดจางและเริ่มจะไม่สนใจอีกฝ่ายแล้วนั่นเอง