บางคนเรียนเก่ง จบออกไปทำงานไม่เป็นก็มี บางคนเรียนไม่เก่ง แต่จบออกไปประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก็เยอะ บางคนเรียนเก่ง เมื่อถึงวัยทำงาน ก็สามารถ
ประสบความสำเร็จได้ก็มีบางคนเรียนไม่จบ และ ล้มเหลวในชีวิตก็เยอะ สิ่งที่จะบอกคือ ผลการเรียนนั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดได้ว่าใครจะไปได้ดี หรือ ล้มเหลว
ประเด็นเรื่องการเรียน
การศึกษาเล่าเรียนมันเป็นเรื่องของตนคนนั้นเพียงคนเดียว เรียนดี เรียน แ ย่ ก็อยู่คนคนนั้นทำเองทั้งสิ้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้องช่วยอะไรไม่ได้ สถาบันที่เรียนที่จบมาก็
ไม่เกี่ยว อยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วน ๆถ้าผลการเรียนออกมาดี ก็มีแนวโน้มว่า “น่าจะทำงานเก่งนนะ” เพราะกว่าจะจบมันต้องฝึกต้องฝนกันมากมายหลายกระบวนท่า แต่อย่างไรก็ตาม
การฝึกฝนในช่วงระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นั้น มันฝึกฝนอยู่ในกรอบของสมมติฐานที่ว่า “ฝึกเพื่อเรียนรู้ ถ้าถูกก็แล้วไป แต่ถ้าผิดก็กลับไปแก้ไขใหม่จนกว่าจะดีขึ้น” ซึ่งเป็นหลักง่าย ๆ
ของชีวิตนักศึกษา เชื่อว่าเคยผ่านกันมาทุกคนสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าในช่วงที่เรากำลังศึกษาอยู่นั้นหากเรา คิดผิด ทำผิด มันจะถูกลงโทษเพียงอย่างเดียวคือ เกรดหรือ
ผลการเรียนจะออกมาไม่ดีหรือไม่ก็ติดเอฟ (F) ต้องไปลงทะเบียนเรียนใหม่กับเด็กรุ่นน้อง บางคนก็ไม่ถือเพราะหน้าด้าน บางคน
เ ค รี ย ด มากเพราะอายกับการที่จะ
ต้องไปเรียนกับรุ่นน้องชีวิตวัยเรียนมีเรื่องให้ เ ค รี ย ด ป ว ด ส ม อ ง ไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้เสียเป็นส่วนใหญ่ บางคนถึงกับไม่อยากจบออกมา
เพราะยังอยากสนุกกับชีวิตในช่วงวัยนี้ต่อไปอีก แต่เมื่อถึงเวลาจบก็ต้องจบ อยู่ที่ว่าตอนจบของช่วงวัย จะจบออกมาดี หรือ จบออกมาแบบไม่ได้เรื่อง ซึ่งจะถูกนำไปพิสูจน์ต่อไป
ในช่วงชีวิตวัยทำงาน
ประเด็นเรื่องการทำงาน
“การทำงานคือการพิสูจน์คุณภาพของคนว่าคนคนนั้นมีคุณภาพแค่ไหน” คุณภาพมากแค่ไหนวัดกันอย่างไร ง่ายๆ เลย ก็แค่วัดว่า ผลของงานที่ทำสัมฤทธิ์ออกมา
มันเกิดคุณค่าหรือประโยชน์แก่คนอื่นมากแค่ไหน นั่นแหละคือคุณภาพจะเห็นว่าตอนเรียนเราไม่วัดผลการเรียนแบบนี้เลย การเรียนเป็นอะไรที่ง่ายสอบไม่ผ่านก็ลงเรียนใหม่
แต่ถ้าทำงานแล้วทำไม่ผ่าน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เสียเวลา เสียเงิน เสียใจ ถูกเจ้านายด่า เพื่อนร่วมงานขาดความเชื่อถือ ทั้งหมดนี้คือโลกของความจริงโลกที่แสน เ จ็ บ ป ว ด
เมื่อทำผิดพลาดขึ้นมาในขณะเดียวกัน มันก็เป็นโลกที่หอมหวานเมื่อเราทำงานสำเร็จขึ้นมา เกิดคุณค่าต่อผู้อื่นในวงกว้าง สังเกตุดีๆ ชีวิตในช่วงกำลังเรียนคือช่วง
“อยู่ในโลกของจินตนาการ” แต่ชีวิตในช่วงทำงานมันคือ “โลกแห่งความจริง” คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายเขาเชื่อว่า ถึงแม้เรียนจบจากช่วงชีวิตวัยเรียนแล้วเขา
หาได้คิดว่าเขาต้องหยุดเรียนรู้อยู่แค่นั้นไม่ แต่กลับกลายเป็นว่าพอจบการเรียนในช่วงวัยเรียน จะต้องศึกษาแบบจริงๆ จังๆ ต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีกคือระดับ ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชีวิต
ซึ่งจะต้องเรียนรู้ทุกลมหายใจ เพราะมันจะมีผล ได้-เสียในทุกครั้งที่ลงมือทำอะไรก็ตาม และจะต้องศึกษาไปตลอดชีวิตใน
ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชีวิตแห่งนี้ ส่วนคนที่ชีวิตล้มเหลวก็
มีสาเหตุเพียงสาเหตุเดียวก็คือ ไม่เรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง มันก็ผิดซ้ำๆ ซากๆ จนหาคุณภาพไม่ได้และสิ้นความน่าเชื่อถือในที่สุด และสุดท้ายก็คือล้มเหลว
ขอขอบคุณ bitcoretech